Add parallel Print Page Options

ภาค 2

บทที่ 42-72

อธิษฐานต่อพระเจ้าจากห้วงลึกแห่งจิตวิญญาณ

ถึงหัวหน้าวงดนตรี เพลงสดุดีแห่งความฉลาดรอบรู้ของตระกูลโคราห์

กวางกระเสือกกระสนหาธารน้ำไหลฉันใด
    โอ พระเจ้า จิตวิญญาณข้าพเจ้าก็กระเสือกกระสนหาพระองค์ฉันนั้น
จิตวิญญาณข้าพเจ้ากระหายหาพระเจ้า
    หาพระเจ้าผู้ดำรงอยู่
เมื่อใดข้าพเจ้าจึงจะได้เห็นใบหน้าของพระเจ้า
ข้าพเจ้ากินน้ำตาต่างข้าว
    ทั้งวันและคืน
ในขณะเดียวกันมีคนพูดกับข้าพเจ้าตลอดวันเวลาว่า
    “พระเจ้าของท่านอยู่ที่ไหน”
ขณะที่หัวใจข้าพเจ้ากำลังแตกสลาย
    มีสิ่งที่ข้าพเจ้าจำได้คือ
ข้าพเจ้าเคยนำขบวนฝูงชน
    ไปยังพระตำหนักของพระเจ้า
พร้อมด้วยเสียงโห่ร้องและเพลง เป็นการแสดงความขอบคุณ
    ท่ามกลางหมู่ชนในงานฉลองเทศกาล

โอ จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย ทำไมจึงเศร้าสลดหดหู่เช่นนี้
    และทำไมใจจึงว้าวุ่นนัก
ตั้งความหวังในพระเจ้าเถิด
    เพราะข้าพเจ้ายังจะสรรเสริญพระองค์อีก
โอ ผู้ช่วยเหลือของข้าพเจ้า     และพระเจ้าของข้าพเจ้า

จิตวิญญาณข้าพเจ้าเศร้าสลดหดหู่อยู่ภายใน
    ฉะนั้นข้าพเจ้าระลึกถึงพระองค์
จากดินแดนแห่งแม่น้ำจอร์แดนและแห่งเทือกเขาเฮอร์โมน
    จากภูเขามิซาร์
ห้วงน้ำลึกร้องเรียกหากันและกัน
    เสียงกึกก้องจากน้ำตกของพระองค์
คลื่นทั้งลูกเล็กและลูกใหญ่
    ซัดผ่านท่วมตัวข้าพเจ้า

พระผู้เป็นเจ้าบัญชาให้ความรักอันมั่นคงของพระองค์ในยามกลางวัน
    และเพลงของพระองค์อยู่กับข้าพเจ้าในยามค่ำ
    คำอธิษฐานต่อพระเจ้าแห่งชีวิตของข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าพูดกับพระเจ้า ศิลาของข้าพเจ้าว่า
    “ทำไมพระองค์จึงลืมข้าพเจ้าเสียแล้ว
ทำไมข้าพเจ้าต้องเดินไปด้วยความเศร้าโศก
    เพราะศัตรูบีบบังคับข้าพเจ้าเล่า”
10 พวกศัตรูถากถางข้าพเจ้า
    ประหนึ่งเป็นแผลร้ายในกระดูกข้าพเจ้า
พวกเขาพูดกับข้าพเจ้าตลอดวันเวลาว่า
    “พระเจ้าของท่านอยู่ที่ไหน”

11 โอ จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย ทำไมจึงเศร้าสลดหดหู่เช่นนี้
    และทำไมใจจึงว้าวุ่นนัก
จงตั้งความหวังในพระเจ้าเถิด
    เพราะข้าพเจ้ายังจะสรรเสริญพระองค์อีก
    โอ ผู้ช่วยเหลือของข้าพเจ้า และพระเจ้าของข้าพเจ้า

ความหวังในพระเจ้ายามลำบาก

โอ พระเจ้า โปรดพิสูจน์ให้เห็นเถิดว่าข้าพเจ้าไม่ใช่ฝ่ายผิด
    และปกป้องข้าพเจ้าจากพวกที่ไร้คุณธรรม
หลอกลวง และไร้ความชอบธรรม
    ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นเถิด
เพราะพระองค์เป็นพระเจ้า เป็นที่หลบภัยของข้าพเจ้า
    ทำไมพระองค์จึงทอดทิ้งข้าพเจ้าไป
ทำไมข้าพเจ้าต้องเดินไปด้วยความเศร้าโศก
    เพราะถูกศัตรูบีบบังคับเล่า
โปรดมอบแสงสว่างและความจริงของพระองค์
    เพื่อนำทางข้าพเจ้า
เพื่อนำข้าพเจ้าไปยังภูเขาอันบริสุทธิ์ของพระองค์
    และยังกระโจมที่พำนักของพระองค์
แล้วข้าพเจ้าจะไปยังแท่นบูชาของพระเจ้า
    เพื่อหาพระเจ้าแห่งความชื่นชมยินดีของข้าพเจ้า
และข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ด้วยพิณ
    โอ พระเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า

โอ จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย ทำไมจึงเศร้าสลดหดหู่เช่นนี้
    และทำไมใจจึงว้าวุ่นนัก
จงตั้งความหวังในพระเจ้าเถิด
    เพราะข้าพเจ้ายังจะสรรเสริญพระองค์อีก
    โอ ผู้ช่วยเหลือของข้าพเจ้า และพระเจ้าของข้าพเจ้า

วิงวอนต่อพระเจ้าเพื่อให้พ้นจากความทุกข์ยาก

ถึงหัวหน้าวงดนตรี ของตระกูลโคราห์ เพลงสดุดีแห่งความฉลาดรอบรู้

โอ พระเจ้า พวกเราได้ยินด้วยหูของเรา
    บรรพบุรุษของเราได้บอกพวกเราถึงสิ่งต่างๆ
ที่พระองค์ได้สำแดงในสมัยของพวกเขา
    ซึ่งผ่านพ้นมานานแล้ว
พระองค์ขับไล่บรรดาประชาชาติออกไปด้วยมือของพระองค์เอง
    และให้บรรพบุรุษของพวกเราตั้งรกราก
พระองค์ให้ชนชาติเหล่านั้นได้รับทุกข์ทรมาน
    และให้พวกบรรพบุรุษบังเกิดผลดียิ่ง
คนของพระองค์ยึดแผ่นดินไว้ได้ มิใช่ด้วยดาบของตนเอง
    ชัยชนะก็มิใช่ด้วยแขนของตนเอง
แต่เป็นมือขวาและแขนของพระองค์
    และเป็นเพราะพระองค์อยู่กับพวกเขา
    เพราะพระองค์พึงพอใจในตัวเขา

พระองค์เป็นกษัตริย์และพระเจ้าของข้าพเจ้า
    พระองค์ออกคำสั่งให้ยาโคบได้ชัยชนะ
พวกเราทำให้ศัตรูพ่ายแพ้ได้ก็เพราะพระองค์
    พวกเราทำให้ข้าศึกทลายราบเป็นหน้ากลองได้โดยพระนามของพระองค์
ด้วยว่า ข้าพเจ้าไม่อาจวางใจในคันธนู
    และดาบไม่สามารถช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นได้
แต่พระองค์ช่วยพวกเราให้รอดจากศัตรู
    และทำให้พวกที่เกลียดชังเราอับอาย
พวกเราโอ้อวดถึงพระเจ้าตลอดวันเวลา
    และเราสรรเสริญพระนามของพระองค์ไปตลอดกาล เซล่าห์

ถึงกระนั้นพระองค์ก็ได้ทอดทิ้งพวกเรา และให้เราต้องอับอาย
    พระองค์ไม่ได้ออกไปกับกองทัพของเรา
10 พระองค์ทำให้พวกเราวิ่งหนีศัตรู
    และพวกข้าศึกริบของไป
11 พระองค์ทำให้พวกเราเป็นดั่งแกะสำหรับใช้เป็นอาหาร
    และทำให้พวกเรากระจัดพลัดพรายไปในท่ามกลางบรรดาประชาชาติ
12 พระองค์ได้ขายชนชาติของพระองค์ในราคาเพียงน้อยนิด
    โดยไม่เรียกร้องราคาสูงๆ

13 พระองค์ทำให้พวกเราถูกเหยียดหยามในหมู่เพื่อนบ้านเรา
    พวกเขาล้อเลียนและหัวเราะเยาะรายรอบข้างเรา
14 พระองค์ทำให้พวกเราเป็นที่ขบขันในบรรดาประชาชาติ
    เป็นที่ดูแคลนในบรรดาชนชาติ
15 ข้าพเจ้าเผชิญความอัปยศตลอดวันเวลา
    และข้าพเจ้าอับอายเป็นที่สุด
16 เป็นเพราะคำพูดจากผู้ถากถางและดูถูก
    เป็นเพราะฝ่ายตรงข้ามและพวกเจ้าคิดเจ้าแค้น

17 สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับเรา
    แต่พวกเรายังไม่ลืมพระองค์
    และเราไม่ได้กระทำผิดต่อพันธสัญญาของพระองค์
18 เราไม่ได้เอาใจออกห่างไป
    และเท้าของเราไม่ได้ก้าวออกนอกวิถีทางของพระองค์
19 ถึงกระนั้นพระองค์ยังทำให้พวกเราแตกสลายอยู่ในที่ของหมาใน
    และปล่อยให้ตกอยู่ในความมืดมิด

20 ถ้าหากว่าพวกเราลืมพระนามของพระเจ้าของเรา
    หรือยกมือขึ้นเคารพเทพเจ้าต่างชาติ
21 แล้วพระเจ้าจะไม่ค้นพบหรือ
    พระองค์หยั่งรู้ความลึกลับในจิตใจ
22 พวกเราเผชิญความตายเพื่อพระองค์ตลอดวันเวลา
    พวกเราถูกนับว่าเป็นดั่งแกะสำหรับการประหาร[a]

23 ตื่นขึ้นเถิด โอ พระผู้เป็นเจ้า ไยพระองค์จึงนอนหลับ
    ตื่นขึ้นเถิด อย่าทอดทิ้งพวกเราไปชั่วนิรันดร์กาล
24 ทำไมพระองค์จึงซ่อนหน้า
    ทำไมพระองค์ลืมความทุกข์ทรมาน และการถูกบีบบังคับของพวกเรา
25 ด้วยว่า เราจมลงอยู่กับธุลีดิน
    กายของเราติดอยู่กับพื้นดิน
26 โปรดลุกขึ้นเถิด มาช่วยพวกเรา
    และไถ่เราเนื่องจากความรักอันมั่นคงของพระองค์

เพลงประกอบในพิธีสมรสของกษัตริย์

ถึงหัวหน้าวงดนตรี ตามทำนองพลับพลึง ของตระกูลโคราห์ เพลงสดุดีแห่งความฉลาดรอบรู้ เพลงรัก

ใจของข้าพเจ้าเปี่ยมด้วยคำอันไพเราะ
    ข้าพเจ้าแต่งเพลงถวายแด่กษัตริย์
    ลิ้นข้าพเจ้าเป็นเสมือนปากกาของนักประพันธ์ผู้เชี่ยวชาญ

ท่านรูปงามที่สุดในบรรดาบุตรของมนุษย์
    สิ่งที่ท่านพูดมีแต่พระคุณ
    ฉะนั้นพระเจ้าอวยพรท่านตลอดกาล

สะพายดาบไว้ที่เอว โอ ท่านผู้มีอานุภาพ
    ทรงเครื่องด้วยความเรืองรองและความยิ่งใหญ่ของท่าน
ท่านขี่ม้ารุดไปด้วยความมีชัยในความยิ่งใหญ่ของท่าน
    เพื่อปกป้องความจริง ความอ่อนโยนและความชอบธรรม
    ให้มือขวาของท่านแสดงการกระทำอันวิเศษสุด
ให้ลูกธนูคมกริบของท่านปักลงที่หัวใจพวกศัตรูของกษัตริย์
    ให้เหล่าชนชาติล้มลงใต้เท้าของท่าน
ข้าแต่พระเจ้า บัลลังก์ของท่านจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์กาล
    และความชอบธรรมจะเป็นดุจคทาแห่งอาณาจักรของท่าน
ท่านรักความชอบธรรมและเกลียดความชั่วร้าย
    ฉะนั้นพระเจ้า พระเจ้าของท่านได้ให้ท่านอยู่เหนือมิตรสหาย
    โดยเจิมท่านด้วยน้ำมันแห่งความยินดี[b]
เสื้อคลุมของท่านมีกลิ่นน้ำมันหอมจากมดยอบ กฤษณาและการบูร
    เครื่องสายจากวังที่ประดับด้วยงาช้างทำให้ท่านยินดี
บรรดาธิดาของกษัตริย์ทั้งปวงอยู่ในบรรดาสตรีผู้มีเกียรติ
    ทางขวามือของท่านคือราชินีประดับด้วยทองคำแห่งโอฟีร์

10 จงฟังเถิด บุตรสาว จงเงี่ยหูให้ดี
    จงลืมชนชาติและพวกพ้องของเจ้า
11     และกษัตริย์จะปรารถนาความงามของเจ้า
ในเมื่อท่านเป็นนายของเจ้า จงก้มตัวลง
12 บุตรสาวแห่งเมืองไทระจะมอบของกำนัลแก่เจ้า
    คนมั่งมีจะพยายามแสวงหาความดีความชอบจากเจ้า
13 เจ้าหญิงผู้กอปรด้วยเกียรติทุกประการอยู่ที่ห้องของเธอ
    เสื้อผ้าของเธอทอด้วยทองคำ
14 เธอสวมเสื้อคลุมหลากสีขณะถูกนำตัวเข้าหากษัตริย์
    ติดตามด้วยบรรดาพรหมจาริณี
    เป็นเพื่อนตามหลังเธอมา
15 บรรดาหญิงเหล่านี้ถูกพาไปด้วยความยินดีและเบิกบานใจ
    เป็นอย่างยิ่งขณะที่เข้าไปในวังของกษัตริย์

16 บรรดาบุตรชายของท่านจะรับตำแหน่งแทนบรรดาบิดาของท่าน
    และท่านจะให้เป็นเจ้าชายปกครองแผ่นดินทั่วทั้งโลก

17 ข้าพเจ้าจะทำให้ทุกชั่วอายุคนเฉลิมฉลองนามของท่าน
    ฉะนั้น บรรดาชนชาติจะสรรเสริญท่านเป็นนิจ

พระเจ้าสถิตกับเรา

ถึงหัวหน้าวงดนตรี ของตระกูลโคราห์ บทเพลง ตามทำนองอาลาโมธ[c]

พระเจ้าเป็นที่พักพิงและพละกำลังของเรา
    ช่วยเหลือเราได้เสมอในยามทุกข์ยาก
ฉะนั้น เราจะไม่กลัวแม้โลกจะสะท้านสะเทือน
    แม้ภูเขาจะเคลื่อนลงสู่สะดือทะเลก็ตาม
แม้น้ำในทะเลจะซัดสาดจนครืนครั่นและเกิดฟอง
    แม้ภูเขาไหวคลอนเป็นอย่างยิ่ง เซล่าห์

มีแม่น้ำซึ่งสายน้ำได้นำความยินดีมาสู่เมืองของพระเจ้า[d]
    เป็นกระโจมที่พำนักขององค์ผู้สูงสุด
พระเจ้าพำนักอยู่ท่ามกลางเมืองนั้น เมืองย่อมไม่ถูกทำลาย
    พระเจ้าจะช่วยเหลือเมืองในยามอรุณรุ่ง
บรรดาประชาชาติทำให้อลหม่าน อาณาจักรต่างๆ ก็ครั่นคร้าม
    พระองค์ส่งเสียง แผ่นดินก็หลอมละลาย

พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาสถิตกับเรา
    พระเจ้าของยาโคบเป็นหลักยึดอันมั่นคงของเรา เซล่าห์

มาเถิด มาดูผลงานของพระผู้เป็นเจ้า
    ดูความหายนะที่พระองค์ได้กระทำต่อโลก
พระองค์ทำให้สงครามยุติลงทั่วทั้งแผ่นดินโลก
    พระองค์หักคันธนูและทำหลาวให้แตกกระจาย
    พระองค์เอาไฟเผารถศึก
10 “จงนิ่งสงบไว้ และรู้ไว้ว่า เราคือพระเจ้า
    เราได้รับการยกย่องในบรรดาประชาชาติ
    เราได้รับการยกย่องในแผ่นดินโลก”

11 พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาสถิตกับเรา
    พระเจ้าของยาโคบเป็นหลักยึดอันมั่นคงของเรา เซล่าห์

พระเจ้าเป็นกษัตริย์แห่งแผ่นดินโลก

ถึงหัวหน้าวงดนตรี ของตระกูลโคราห์ เพลงสดุดี

ชนชาติทั้งปวงเอ๋ย จงปรบมือเถิด
    ตะโกนร้องเพลงแห่งความยินดีถวายแด่พระเจ้า
เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้าผู้สูงสุดเป็นที่น่าเกรงขาม
    กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่เหนือทั่วทั้งแผ่นดินโลก
พระองค์ทำให้บรรดาชนชาติยอมสยบต่อพวกเรา
    และบรรดาประชาชาติอยู่ภายใต้เท้าเรา
พระองค์เป็นผู้เลือกผืนแผ่นดินให้พวกเราได้รับเป็นมรดก
    เป็นสิ่งอันน่าภูมิใจของยาโคบซึ่งเป็นผู้ที่พระองค์รัก เซล่าห์

พระเจ้าขึ้นไปขณะมีการเปล่งเสียงดัง
    พระผู้เป็นเจ้าไปขณะมีเสียงแตร
จงร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า ร้องเพลงสรรเสริญเถิด
    จงร้องเพลงถวายแด่กษัตริย์ของเรา ร้องเพลงสรรเสริญเถิด
เพราะว่าพระเจ้าเป็นกษัตริย์ของทั่วแผ่นดินโลก
    จงร้องเพลงสรรเสริญด้วยเพลงสดุดีแห่งความฉลาดรอบรู้

พระเจ้าเป็นกษัตริย์ของบรรดาประชาชาติ
    พระเจ้านั่งบนบัลลังก์อันบริสุทธิ์ของพระองค์
บรรดาเจ้าขุนมูลนายของบรรดาชนชาติร่วมประชุมกับชนชาติของพระเจ้าของอับราฮัม
    เพราะชนชั้นระดับปกครองของแผ่นดินโลกเป็นของพระเจ้า
    พระองค์ได้รับการยกย่องอย่างสูง

ศิโยนเมืองของพระเจ้า

บทเพลง เพลงสดุดี ของตระกูลโคราห์

พระผู้เป็นเจ้ายิ่งใหญ่ และสมควรแก่การสรรเสริญยิ่งนัก
    ในเมืองแห่งพระเจ้าของเรา
ภูเขาอันบริสุทธิ์ของพระองค์
    ทั้งงดงามและตระหง่าน
เป็นความสุขใจทั่วทั้งแผ่นดินโลก
    คือภูเขาศิโยนซึ่งแลเห็นอยู่ทางเหนือสุด
    อันเป็นเมืองของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่
พระเจ้าผู้สถิตในป้อมปราการของเมือง
    ได้สำแดงพระองค์ว่า เป็นหลักยึดอันมั่นคง

บรรดากษัตริย์ประชุมร่วมกัน
    และได้ยกทัพมาด้วยกัน
แต่ครั้นมาเห็นภูเขาศิโยนแล้วก็ตกใจเป็นที่สุด
    จึงพากันเตลิดหนีไปด้วยความกลัว
บรรดากษัตริย์ต่างหวาดหวั่น ณ ที่นั้น
    ทั้งเจ็บปวดรวดร้าวประหนึ่งหญิงเจ็บครรภ์
ดั่งเรือเดินทะเลของเมืองทาร์ชิช
    ที่ถูกลมตะวันออกพัดถาโถมเข้าใส่จนอับปางไป
ตามที่ได้ยิน
    เราก็ได้เห็น
ณ เมืองของพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา
    ณ เมืองของพระเจ้าของเรา
อันเป็นที่ซึ่งพระองค์มอบความปลอดภัย
    ให้ชั่วนิรันดร์กาล เซล่าห์

โอ พระเจ้า เราคำนึงถึงความรักอันมั่นคงของพระองค์
    ในยามที่อยู่ในพระวิหารของพระองค์
10 โอ พระเจ้า คำสรรเสริญถึงพระองค์
    เลื่องลือไปไกลทั่วแหล่งหล้า
เช่นเดียวกับพระนามของพระองค์
    มือขวาของพระองค์พรั่งพร้อมด้วยความชอบธรรม
11 ให้ภูเขาศิโยนยินดี
    ให้ธิดาแห่งยูดาเปรมปรีดิ์
    เพราะความเป็นธรรมของพระองค์

12 จงเดินดูศิโยนให้ทั่ว เดินให้รอบ
    และนับจำนวนหอคอย
13 สังเกตที่ตัวกำแพง
    ตรวจสอบดูป้อมปราการ
    เพื่อให้ท่านสามารถบอกให้คนยุคต่อไปฟังได้ว่า
14 พระเจ้าผู้นี้เป็นพระเจ้าของเราชั่วนิรันดร์กาล
    พระองค์จะเป็นผู้นำของเราไปจนชั่วชีวิต

เพลงสดุดีแห่งสติปัญญา ในเรื่องของชีวิตและความตาย

ถึงหัวหน้าวงดนตรี ของตระกูลโคราห์ เพลงสดุดี

จงฟังเถิด ชนชาติทั้งปวงเอ๋ย
    จงเงี่ยหูเถิด ผู้อาศัยทั้งปวงในโลก
ทั้งต่ำต้อยและยิ่งใหญ่
    ทั้งมั่งมีและยากจน
ปากของข้าพเจ้าจะกล่าวสิ่งซึ่งแสดงความมีสติปัญญา
    การใคร่ครวญของข้าพเจ้าจะเป็นความหยั่งรู้
ข้าพเจ้าจะเงี่ยหูฟังสุภาษิต
    ข้าพเจ้าจะไขปริศนาด้วยเสียงพิณบรรเลง

ทำไมข้าพเจ้าต้องกลัวเมื่อเกิดความทุกข์ยาก
    ยามพวกที่กดขี่ข่มเหงอยู่รายล้อมข้าพเจ้า
พวกที่วางใจในความมั่งมีของตน
    และโอ้อวดว่าร่ำรวยล้นฟ้า
ไม่มีผู้ใดสามารถไถ่ชีวิตตน
    หรือจะนำสิ่งใดๆ มาถวายแด่พระเจ้าเพื่อชดใช้แทนชีวิตตนได้เลย
เพราะว่า ค่าไถ่ชีวิตนั้นสูงมาก
    และชดใช้เท่าไรก็ไม่มีวันหมด
ที่จะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป
    และไม่มีวันเปื่อยเน่าชั่วนิรันดร์กาล
10 เพราะทุกคนก็เห็นว่าวันหนึ่งผู้เรืองปัญญาก็ต้องตาย
    คนโง่เขลาและคนไร้ความคิดก็ตายเช่นกัน
    ครั้นแล้วพวกเขาก็ทิ้งสมบัติไว้ให้คนอื่น
11 หลุมศพจะเป็นบ้านของเขาไปตลอดกาล
    เป็นที่อาศัยไปทุกชั่วอายุคน
    แม้เขาตั้งชื่อที่ดินตามชื่อของเขาเอง

12 มนุษย์จะอาศัยความมั่งคั่งเป็นหลักยึดไม่ได้
    เพราะเขาก็เป็นเหมือนสัตว์ป่าที่ไม่พ้นจากความตาย
13 นี่คือวิถีทางของพวกที่เชื่อถืออย่างโง่ๆ
    คือจุดจบของคนที่ระเริงใจกับความมั่งคั่งของตน เซล่าห์
14 พวกเขาเป็นดั่งแกะที่ถูกกำหนดให้ไปสู่แดนคนตาย
    คือความตายจะเป็นผู้ดูแลพวกเขา
    ผู้มีความชอบธรรมจะพิพากษาพวกเขาในยามรุ่งอรุณ
ร่างของเขาจะเปื่อยเน่าไป
    แดนคนตายจะเป็นบ้านของเขา
15 แต่พระเจ้าจะคว้าชีวิตข้าพเจ้าไปเสียจากอำนาจของแดนคนตาย
    พระองค์จะรับตัวข้าพเจ้าไป เซล่าห์
16 อย่ากลัวเวลาคนร่ำรวยขึ้น
    เวลาความมั่งมีที่บ้านของเขาเพิ่มพูน
17 เพราะเวลาเขาตายไป เขาจะหอบหิ้วอะไรไปไม่ได้เลย
    เพราะความมั่งคั่งของเขาจะไม่ตามเขาลงไปด้วย
18 แม้ในช่วงที่เขามีชีวิตอยู่ ก็นับว่าตนมีความสุข
    และได้รับการยกย่องเวลาได้รับความสำเร็จ
19 เขาจะไปอยู่ร่วมกับบรรพบุรุษของเขา
    คือไม่มีวันเห็นแสงสว่างอีกเลย
20 มนุษย์จะอาศัยเอาความมั่งคั่งเป็นหลักยึดไม่ได้
    เพราะเขาเป็นดั่งสัตว์ป่าที่ไม่พ้นจากความตาย

เครื่องสักการะที่แท้จริง

เพลงสดุดีของอาสาฟ

พระเจ้าผู้กอปรด้วยอานุภาพ พระผู้เป็นเจ้ากล่าว
    และเรียกทั่วทั้งแผ่นดิน
    ให้มาจากทิศที่ดวงอาทิตย์ขึ้นจรดทิศที่ดวงอาทิตย์ตก
พระเจ้าส่องความสว่างจากศิโยน
    เมืองแห่งความงามอันบริบูรณ์
พระเจ้าของเราจะมา
    แต่ไม่ได้มาอย่างเงียบๆ
คือมีไฟเผาผลาญซึ่งนำหน้าพระองค์ไป
    ลมอันแรงกล้าอยู่รอบข้างพระองค์
พระองค์เรียกสวรรค์เบื้องบนและโลก
    เพื่อให้รู้ว่าพระองค์พิพากษาชนชาติของพระองค์
“จงรวบรวมบรรดาผู้ภักดีให้มาหาเรา
    คือผู้ที่ได้ทำพันธสัญญากับเราด้วยเครื่องสักการะ”
สวรรค์ประกาศความชอบธรรมของพระองค์
    เพราะพระเจ้าเองเป็นผู้พิพากษา เซล่าห์

“ชนชาติของเราเอ๋ย จงฟังเถิด แล้วเราจะพูด
    โอ อิสราเอลเอ๋ย เราจะยืนยันคัดค้านเจ้า
    เราคือพระเจ้า พระเจ้าของเจ้า
เราไม่ตำหนิเจ้าในเรื่องเครื่องสักการะ
    และสัตว์ที่เผาเป็นของถวายซึ่งอยู่ตรงหน้าเราอย่างไม่ขาดสาย
เราจะไม่รับโคจากบ้านเจ้า
    หรือแพะจากฝูงของเจ้า
10 สัตว์ในป่าทุกตัวเป็นของเรา
    และสัตว์เลี้ยงที่อยู่บนภูเขาพันลูก
11 เรารู้จักนกในอากาศทุกตัว
    และทุกสิ่งที่เคลื่อนไหวในนาล้วนเป็นของเรา
12 ถึงเราจะหิว เราก็จะไม่บอกเจ้า
    เพราะทั้งโลกและทุกสิ่งที่อยู่ในโลกเป็นของเรา
13 เรากินเนื้อกระทิง
    และดื่มเลือดแพะหรือ

14 จงมอบของถวายแห่งการขอบคุณแด่พระเจ้า
    และมอบสิ่งที่เจ้าได้สัญญาไว้แก่องค์ผู้สูงสุด
15 และร้องเรียกถึงเราในยามทุกข์
    เราจะช่วยเจ้าให้พ้นทุกข์ และเจ้าจะสรรเสริญเรา”

16 แต่พระเจ้ากล่าวกับคนชั่วว่า

“เจ้ามีสิทธิ์อะไรที่จะท่องกฎเกณฑ์ของเรา
    หรือพูดเรื่องพันธสัญญาของเรา
17 เพราะเจ้าเกลียดวินัย
    และสลัดคำสั่งสอนของเราออกไปจากตัวเจ้า
18 เวลาเจ้าเห็นโจร เจ้าก็ยินดีกับเขา
    และเจ้ามั่วสุมกับพวกผิดประเวณี
19 เจ้าปล่อยให้ปากพ่นสิ่งชั่วร้ายออกมาพล่อยๆ
    และลิ้นของเจ้าผูกพันกับการลวงหลอก
20 เจ้าพูดต่อต้านพี่น้องของเจ้า
    เจ้าพูดว่าร้ายลูกของแม่ของเจ้าเอง
21 เจ้าได้กระทำสิ่งเหล่านี้ และเราก็นิ่งเงียบ
    เจ้าคิดว่าเราเป็นประเภทเดียวกับเจ้านั่นเอง
แต่มาบัดนี้เราห้ามเจ้า
    และตำหนิเจ้าต่อหน้า

22 พวกเจ้าผู้ลืมพระเจ้า จงฟังให้ดี
    มิฉะนั้น เราจะทำให้เจ้าวอดวาย และจะไม่มีใครช่วยให้รอดพ้นได้
23 ผู้ใดมอบของถวายแห่งการขอบคุณนับว่าให้เกียรติเรา
    และเราจะให้ผู้ที่เดินตามวิถีทางอันถูกต้องได้เห็นความรอดพ้นที่มาจากพระเจ้า”

คำอธิษฐานขออภัย

ถึงหัวหน้าวงดนตรี เพลงสดุดีของดาวิด เมื่อนาธานผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้ามาหาท่าน หลังจากที่ท่านเข้าไปหานางบัทเช-บาแล้ว[e]

โอ พระเจ้า โปรดเมตตาข้าพเจ้า
    เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์
เพราะพระองค์มีเมตตาเป็นล้นพ้น
    โปรดลบล้างการล่วงละเมิดของข้าพเจ้า
ชำระล้างความชั่วทั้งปวงของข้าพเจ้าให้หมดสิ้น
    และทำให้ข้าพเจ้าบริสุทธิ์จากบาป

เพราะข้าพเจ้าทราบว่าข้าพเจ้าล่วงละเมิด
    และตระหนักในบาปของข้าพเจ้าแล้ว
ข้าพเจ้าทำบาปต่อพระองค์ ต่อพระองค์เพียงผู้เดียว
    และได้กระทำสิ่งที่ชั่วในสายตาของพระองค์
เพื่อพระองค์เป็นที่เห็นว่าถูกต้องเวลาพระองค์กล่าว
    และไร้ความผิดเวลาพระองค์ตัดสินโทษ
จริงทีเดียวที่ข้าพเจ้าเป็นคนบาปตั้งแต่แรกเกิด
    เป็นคนบาปตั้งแต่เริ่มชีวิตในครรภ์มารดา
ดูเถิด พระองค์ต้องการความภักดีที่มาจากใจ
    ฉะนั้นขอพระองค์สั่งสอนสติปัญญาให้กับส่วนลึกๆ ในใจของข้าพเจ้า

โปรดลบล้างบาปข้าพเจ้าด้วยก้านหุสบ ข้าพเจ้าจะได้สะอาด
    ชำระล้างข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะได้ขาวยิ่งกว่าหิมะ
ให้ข้าพเจ้าได้สัมผัสกับเสียงแห่งความยินดีและรื่นเริงใจ
    ให้กระดูกที่พระองค์หักเป็นเสี่ยงๆ ยินดีได้เถิด
โปรดซ่อนหน้าพระองค์ไปเสียจากบาปของข้าพเจ้า
    และลบล้างความชั่วทั้งปวงของข้าพเจ้าให้หมดสิ้น
10 โอ พระเจ้า โปรดบันดาลให้ใจของข้าพเจ้าสะอาด
    และทำให้วิญญาณของข้าพเจ้ามั่นคงขึ้นมาใหม่
11 อย่าขับไสข้าพเจ้าไปให้พ้นจากพระองค์
    และอย่าพรากพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ไปจากข้าพเจ้า
12 ขอให้ความรอดพ้นที่มาจากพระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้าเกิดความยินดีขึ้นอีก
    และด้วยวิญญาณที่ยอมเชื่อฟัง พระองค์ให้ข้าพเจ้ายืนหยัดได้

13 แล้วข้าพเจ้าจะสอนวิถีทางของพระองค์แก่คนที่ล่วงละเมิด
    และพวกคนบาปจะกลับมาหาพระองค์
14 โอ พระเจ้า ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นโทษอันเนื่องมาจากการฆาตกรรม
    พระองค์เป็นพระเจ้าผู้ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น
    และลิ้นของข้าพเจ้าจะเปล่งเสียงร้องด้วยความยินดีถึงความชอบธรรมของพระองค์
15 โอ พระผู้เป็นเจ้า เปิดริมฝีปากของข้าพเจ้าเถิด
    และปากของข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์
16 เพราะพระองค์ไม่ชื่นชอบกับเครื่องสักการะ
    ถ้าหากว่าข้าพเจ้ามอบสัตว์ที่เผาเป็นของถวาย พระองค์จะไม่พึงพอใจ
17 เครื่องสักการะอันแท้จริงสำหรับพระเจ้าคือจิตวิญญาณที่น้อมนอบถ่อมลง
    โอ พระเจ้า พระองค์ไม่ปฏิเสธคนที่สำนึกตัวและกลับใจอย่างแท้จริง

18 ขอพระองค์กรุณาต่อศิโยนตามความประสงค์อันเป็นพระคุณของพระองค์
    ขอพระองค์สร้างกำแพงเมืองของเยรูซาเล็มขึ้นใหม่
19 แล้วพระองค์จะพึงพอใจกับเครื่องสักการะอันแท้จริง
    กับสัตว์ทั้งตัวที่เผาเป็นของถวาย
    และโคจะเป็นเครื่องสักการะบนแท่นบูชาของพระองค์

คำตัดสินลงโทษและพระคุณของพระเจ้า

ถึงหัวหน้าวงดนตรี เพลงสดุดีแห่งความฉลาดรอบรู้ของดาวิด เมื่อโดเอกชาวเอโดมไปหาซาอูลและบอกท่านว่า “ดาวิดได้ไปยังบ้านของอาหิเมเลค”[f]

ท่านผู้มีอานุภาพ ทำไมท่านจึงโอ้อวดเรื่องสิ่งเลวร้าย
    ความรักอันมั่นคงของพระเจ้ามีอยู่ตลอดวันเวลา
ท่านวางแผนเพื่อทำลายผู้อื่น
    ลิ้นของท่านเป็นเสมือนมีดโกนคมกริบ
    ท่านกระทำแต่สิ่งลวงหลอก
ท่านรักความชั่วมากกว่าความดี
    และพูดเท็จมากกว่าความจริง เซล่าห์
ท่านรักคำพูดบาดใจ
    โอ ลิ้นที่ลวงหลอก

แต่พระเจ้าจะทำลายท่านไปตลอดกาล
    พระองค์จะฉุดกระชากตัวท่านออกจากกระโจม
    พระองค์จะถอนรากถอนโคนท่านไปเสียจากดินแดนของคนเป็น เซล่าห์
ผู้มีความชอบธรรมจะเห็นและเกรงกลัว
    และจะหัวเราะเยาะคนกระทำความชั่วโดยพูดว่า
“ดูสิว่า เกิดอะไรขึ้นกับคนที่ไม่ให้
    พระเจ้าเป็นที่พึ่งพิง
แต่วางใจในความมั่งคั่ง
    และโอ่ว่าตนเข้มแข็งด้วยการทำลายผู้อื่น”

แต่ข้าพเจ้าเป็นดั่งต้นมะกอกเขียวชอุ่ม
    ที่พระตำหนักของพระเจ้า
ข้าพเจ้าวางใจในความรักอันมั่นคงของพระเจ้า
    ไปชั่วนิรันดร์กาล
ข้าพเจ้าจะขอบคุณพระองค์ชั่วนิรันดร์กาล
    เพราะสิ่งที่พระองค์ได้กระทำ
ข้าพเจ้าจะประกาศพระนามของพระองค์ว่าดีเช่นไร
    ต่อหน้าบรรดาผู้ภักดีของพระองค์

คนโง่ถูกตัดสินโทษ

ถึงหัวหน้าวงดนตรีตามเสียงปี่ เพลงสดุดีแห่งความฉลาดรอบรู้ของดาวิด

คนโง่เขลาคิดอยู่ในใจว่า
    “พระเจ้าไม่มีจริง”
พวกเขาไร้ศีลธรรม และทำสิ่งที่น่าขยะแขยง
    ไม่มีผู้ใดกระทำความดี

พระเจ้ามองลงมาจากสวรรค์
    ดูว่า มีใครสักคนในบรรดาบุตรของมนุษย์
    ที่เข้าใจและแสวงหาพระเจ้า
ทุกคนเอาใจออกห่าง
    เขากลายเป็นคนไร้ศีลธรรมกันไปหมด
ไม่มีผู้ใดกระทำความดี
    ไม่มีแม้แต่คนเดียว[g]

พวกที่ทำความชั่วไม่เข้าใจหรือ
    พวกเขากินชนชาติของเราเหมือนกินขนมปัง
    และไม่ร้องเรียกถึงพระเจ้า
นั่นแหละ พวกเขาหวาดหวั่นยิ่งนัก
    หวาดหวั่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เพราะพระเจ้าจะเหวี่ยงกระดูกของผู้ที่ไม่ใฝ่ใจในพระองค์ไปคนละทิศละทาง
    พวกเขาจะอับอายเพราะพระเจ้าไม่ยอมรับพวกเขาไว้

ขอให้ความรอดพ้นของอิสราเอลมาจากศิโยน
    เวลาพระเจ้าทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของชนชาติของพระองค์คืนสู่สภาพเดิม
    ยาโคบจะชื่นชมยินดี อิสราเอลจะร่าเริงใจ

คำอธิษฐานขอให้พ้นจากศัตรู

ถึงหัวหน้าวงดนตรี ด้วยเครื่องสาย เพลงสดุดีแห่งความฉลาดรอบรู้ของดาวิด เมื่อชาวศิฟไปบอกซาอูลว่า “ดาวิดกำลังซ่อนตัวในหมู่พวกเรา”[h]

โอ พระเจ้า ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นโดยพระนามของพระองค์
    และพิสูจน์ให้เห็นโดยฤทธานุภาพของพระองค์เถิดว่า ข้าพเจ้าไม่ใช่ฝ่ายผิด
โอ พระเจ้า โปรดสดับคำอธิษฐานของข้าพเจ้า
    เงี่ยหูฟังคำพูดจากปากของข้าพเจ้า

พวกคนลำพองต่อต้านข้าพเจ้า
    คนโหดเหี้ยมตามล่าเอาชีวิตข้าพเจ้า
    คนพวกนี้ไม่คำนึงถึงพระเจ้า เซล่าห์

ดูเถิด พระเจ้าเป็นผู้ช่วยเหลือข้าพเจ้า
    พระผู้เป็นเจ้าทำให้ชีวิตข้าพเจ้ายืนยงอยู่ได้
พระองค์จะเอาคืนจากเหล่าศัตรูของข้าพเจ้าตามความชั่วของพวกเขา
    ทำให้พวกเขาพินาศตามความสัตย์จริงของพระองค์เถิด

ข้าพเจ้าจะมอบเครื่องสักการะแด่พระองค์ด้วยความสมัครใจ
    โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าจะขอบคุณพระนามของพระองค์ เพราะพระนามประเสริฐยิ่งนัก
ด้วยว่า พระองค์ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากความทุกข์ยากทั้งปวง
    ดวงตาของข้าพเจ้ามองดูศัตรูด้วยความมีชัย

คำอธิษฐานของผู้ที่ถูกเพื่อนหักหลัง

ถึงหัวหน้าวงดนตรี ด้วยเครื่องสาย เพลงสดุดีแห่งความฉลาดรอบรู้ของดาวิด

โอ พระเจ้า โปรดสดับคำอธิษฐานของข้าพเจ้า
    และอย่าเมินเฉยต่อคำอ้อนวอนของข้าพเจ้าเลย
โปรดฟังและตอบข้าพเจ้าด้วย
    ข้าพเจ้าบอบช้ำจากความทุกข์ยาก
ข้าพเจ้าพะวักพะวนกับเสียงของศัตรู
    และการข่มขู่ของคนชั่ว
พวกเขานำความลำบากมาให้ข้าพเจ้า
    และเขาเคียดแค้นข้าพเจ้าด้วยความโกรธ

ข้าพเจ้าหวั่นหวาดในทรวงอก
    และความกลัวตายครอบครองจิตใจข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าเกิดรู้สึกกลัวจนตัวสั่น
    และหวาดกลัวยิ่งนัก
และข้าพเจ้าพูดได้เลยว่า “ข้าพเจ้าใคร่จะมีปีกอย่างนกพิราบ
    ข้าพเจ้าจะได้บินหนีไปหาความสงบ
ข้าพเจ้าจะบินไปไกลๆ
    และพักแรมอยู่ในถิ่นทุรกันดาร เซล่าห์
ข้าพเจ้าจะรีบไปยังที่หลบภัยของข้าพเจ้า
    เพื่อให้พ้นจากลมอันแรงกล้าและลมพายุ”

ทำให้แผนของเขาล้มเหลวเถิด พระผู้เป็นเจ้า ทำให้คำพูดของเขาสับสนเถิด
    ด้วยว่า ข้าพเจ้าเห็นความรุนแรงและการทะเลาะวิวาทที่ตัวเมือง
10 พวกเขาล้อมรอบกำแพงเมืองตลอดทั้งวันทั้งคืน
    ภายในนั้นก็มีทั้งความชั่วร้ายและความยุ่งยาก
11     ความพินาศอยู่ ณ ที่นั้น
การกดขี่ข่มเหงและความหลอกลวง
    ไม่เคยห่างไปจากสาธารณชน

12 หากว่าเป็นศัตรูที่เหยียดหยามข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าย่อมทนได้
หากว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามที่โอ้อวดข่มข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าก็ซ่อนตัวเสียให้พ้นหน้าเขา
13 แต่เป็นท่านเอง เป็นคนที่ใจตรงกันกับข้าพเจ้า
    เพื่อนคู่หู เพื่อนสนิทของข้าพเจ้า
14 เราเคยร่วมสังสรรค์กันอย่างดี
    และเราดำเนินร่วมกันในพระตำหนักของพระเจ้า
15 ให้พวกเขาเผชิญกับความตายเถิด
    ให้เขาดำดิ่งลงสู่แดนคนตายทั้งเป็น
    เพราะว่าความชั่วอยู่ติดตัวติดใจพวกเขา

16 แต่ข้าพเจ้าร้องเรียกถึงพระเจ้า
    และพระผู้เป็นเจ้าจะช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น
17 ข้าพเจ้าพร่ำเพ้อและคร่ำครวญ
    ทั้งในยามเช้า เที่ยงวัน และยามค่ำ
    และพระองค์จะได้ยินเสียงของข้าพเจ้า
18 พระองค์จะช่วยชีวิตข้าพเจ้าให้ปลอดภัย
    จากสงครามที่ข้าพเจ้าต่อสู้
    แม้จะมีหลายคนต่อต้านข้าพเจ้าอยู่
19 พระเจ้าผู้ครองบัลลังก์ตั้งแต่ครั้งกาลก่อน
    จะฟังและทำให้พวกเขาศิโรราบดั่งหน้ากลอง
เพราะเขาไม่ยอมเปลี่ยนแปลง
    และไม่เกรงกลัวพระเจ้า เซล่าห์

20 เพื่อนสนิทคนนั้นเข้าทำร้ายพวกเพื่อนฝูงของเขาเอง
    เขาผิดสัญญา
21 ถ้อยคำของเขานุ่มนวลยิ่งกว่าเนย
    แต่ความเกลียดครอบครองใจเขา
คำพูดของเขาไหลลื่นยิ่งกว่าน้ำมัน
    แต่เป็นเหมือนดาบคมที่ถูกชักออก

22 จงมอบความกังวลไว้กับพระผู้เป็นเจ้า
    และพระองค์จะทำให้ท่านยืนยงอยู่ได้
    พระองค์จะไม่มีวันปล่อยให้ผู้มีความชอบธรรมล้มเหลว
23 โอ พระเจ้า แต่พระองค์จะโยนพวกคนชั่วลง
    ในหลุมแห่งแดนคนตาย
พวกคนกระหายเลือดและหลอกลวง
    จะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งของชั่วอายุคน

ส่วนข้าพเจ้าจะวางใจในพระองค์

คำอธิษฐานแสดงความไว้วางใจในพระเจ้า

ถึงหัวหน้าวงดนตรี ตามทำนองนกพิราบบนต้นเทเรบินธ์ มิคทามของดาวิด เมื่อชาวฟีลิสเตียจับกุมตัวท่านที่เมืองกัท[i]

โอ พระเจ้า โปรดเมตตาข้าพเจ้า
    เพราะมีคนโจมตีข้าพเจ้า
    ศัตรูข่มเหงข้าพเจ้าตลอดวันเวลา
ฝ่ายตรงข้ามโจมตีข้าพเจ้าตลอดวันเวลา
    ฝูงชนต่อสู้ข้าพเจ้าด้วยความทะนง
เวลาข้าพเจ้ากลัว
    ข้าพเจ้าจะวางใจในพระองค์
ข้าพเจ้าสรรเสริญคำกล่าวของพระเจ้า
    ข้าพเจ้าวางใจในพระองค์โดยไม่หวั่นกลัว
    มนุษย์เป็นเพียงเนื้อหนังจะทำอะไรต่อข้าพเจ้าได้หรือ

ตลอดวันเวลาพวกเขาบิดเบือนคำพูดของข้าพเจ้า
    พวกเขาวางกลอุบายที่ล้วนแต่ชั่วร้ายเพื่อปองร้ายข้าพเจ้า
เขาวางแผนและดักซุ่ม
    เขาเฝ้าดูข้าพเจ้าทุกฝีก้าว
    ในขณะที่รออยู่ก็หวังว่าจะเอาชีวิตข้าพเจ้าไป
โอ พระเจ้า ลงโทษพวกเขาไปตามความชั่วร้ายของเขาเถิด
    ทำให้คนพวกนั้นพ่ายแพ้ด้วยความกริ้วของพระองค์เถิด

ที่พระองค์นับจำนวนครั้งของการร้องไห้ฟูมฟายของข้าพเจ้าได้
    เก็บและวัดตวงน้ำตาของข้าพเจ้าไว้นั้น
    ไม่ได้ระบุไว้ในบันทึกของพระองค์หรือ
แล้วพวกศัตรูจะหันกลับไปในวันที่ข้าพเจ้าร้องเรียกถึง
    แล้วข้าพเจ้าจะทราบว่าพระเจ้าเป็นฝ่ายข้าพเจ้า
10 ข้าพเจ้าสรรเสริญพระเจ้าสำหรับคำกล่าวของพระองค์
    ข้าพเจ้าสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าสำหรับคำกล่าวของพระองค์
11 ข้าพเจ้าวางใจในพระองค์โดยไม่หวั่นกลัว
    มนุษย์จะทำอะไรต่อข้าพเจ้าได้หรือ

12 โอ พระเจ้า ข้าพเจ้าจะถวายสิ่งที่ข้าพเจ้าได้สัญญาไว้กับพระองค์
    ข้าพเจ้าจะมอบของถวายแห่งการขอบคุณแด่พระองค์
13 เพราะว่าพระองค์ช่วยจิตวิญญาณข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากความตาย
    และเท้าข้าพเจ้าให้พ้นจากการหกล้ม
เพื่อข้าพเจ้าจะได้ดำเนินต่อหน้าพระเจ้า
    ในความสว่างของชีวิต

คำอธิษฐานขอความช่วยเหลือ

ถึงหัวหน้าวงดนตรีตามทำนอง “อย่าทำลาย” มิคทามของดาวิด ในครั้งที่ท่านหนีซาอูลเข้าไปในถ้ำ[j]

โปรดเมตตาข้าพเจ้า โอ พระเจ้า เมตตาข้าพเจ้าเถิด
    เพราะจิตวิญญาณของข้าพเจ้าพึ่งพิงในพระองค์
ข้าพเจ้าจะพึ่งพิงภายใต้ร่มเงาปีกของพระองค์
    จนกระทั่งพายุแห่งความพินาศผ่านพ้นไป
ข้าพเจ้าร้องเรียกถึงพระเจ้าผู้สูงสุด
    ร้องถึงพระเจ้าผู้จัดหาทุกสิ่งให้ข้าพเจ้าตามจุดประสงค์ของพระองค์
พระองค์จะส่งความช่วยเหลือจากสวรรค์ให้ข้าพเจ้ารอดพ้น
    พระองค์จะทำให้พวกที่ข่มเหงข้าพเจ้าอับอาย เซล่าห์
พระเจ้าจะส่งความรักอันมั่นคงและความสัตย์จริงของพระองค์

ข้าพเจ้าอยู่ท่ามกลางกลุ่มสิงโต
    ที่เขมือบบรรดาบุตรของมนุษย์อย่างตะกละตะกราม
ฟันของพวกมันเป็นเหมือนหอกและลูกธนู
    และลิ้นของพวกมันเป็นเช่นดาบคม

โอ พระเจ้า ขอพระองค์เป็นที่ยกย่องเหนือเบื้องฟ้าสวรรค์เถิด
    ขอพระบารมีของพระองค์แผ่ปกไปทั่วแผ่นดินโลก

พวกเขาวางตาข่ายไว้ดักจับข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าสิ้นหวัง
เขาขุดหลุมตรงทางที่ข้าพเจ้าไป
    แต่แล้วพวกเขาก็ตกลงไปเอง เซล่าห์
ใจข้าพเจ้ามั่นคง โอ พระเจ้า
    ใจข้าพเจ้ามั่นคง
    ข้าพเจ้าจะร้องเพลงและร้องสรรเสริญพระองค์
ตื่นเถิด โอ จิตวิญญาณเอ๋ย
    พิณสิบสายและพิณเล็ก จงตื่นเถิด
    ข้าพเจ้าจะปลุกอโณทัย
โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าจะขอบคุณพระองค์ท่ามกลางบรรดาชนชาติ
    ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางประชาชาติทั้งปวง
10 ด้วยว่า ความรักอันมั่นคงของพระองค์ยิ่งใหญ่กว้างไกลถึงแดนฟ้าสวรรค์
    ความสัตย์จริงของพระองค์ไปถึงหมู่เมฆ

11 โอ พระเจ้า ขอพระองค์เป็นที่ยกย่องเหนือเบื้องฟ้าสวรรค์เถิด
    ขอพระบารมีของพระองค์แผ่ปกไปทั่วแผ่นดินโลก[k]

คำอธิษฐานให้พระเจ้าลงโทษคนชั่ว

ถึงหัวหน้าวงดนตรีตามทำนอง “อย่าทำลาย” มิคทามของดาวิด

พวกท่านผู้มีอำนาจพูดด้วยความเป็นธรรมจริงหรือ
    ท่านตัดสินคนตามความถูกต้องหรือไม่
เปล่าเลย จิตใจของท่านใฝ่ในการทำความชั่ว
    ท่านกระทำการรุนแรงด้วยมือของตนเองในแผ่นดิน

พวกคนชั่วเลือกทางผิดตั้งแต่อยู่ในครรภ์
    เขาพูดปดนับแต่เกิดมา
มีพิษเหมือนพิษงู
    เหมือนงูเห่าที่อุดหูไม่ฟัง
คือไม่ได้ยินเสียงของพวกหมองู
    หรือคนเสกคาถาด้วยเล่ห์เหลี่ยม

โอ พระเจ้า โปรดหักฟันในปากของพวกเขาเสีย
    โอ พระผู้เป็นเจ้า เลาะเขี้ยวของสิงโตหนุ่มออกเถิด
ให้พวกเขาหายสาบสูญเหมือนกับน้ำที่ไหลออกไป
    ให้เขาถูกเหยียบย่ำและเหี่ยวเฉาดั่งต้นหญ้า
ให้พวกเขาเป็นเหมือนหอยทากที่สลายตัวขณะคลานไป
    เป็นเหมือนทารกตายเสียแต่ครั้งครรภ์ยังอ่อน เขาไม่มีวันเห็นดวงตะวัน
ก่อนที่หม้อจะได้รับความรู้สึกร้อนจากฟืนไฟ
    ให้พระองค์กวาดล้างพวกเขาทั้งเป็นด้วยความกริ้วอันร้อนแรง

10 ผู้มีความชอบธรรมจะชื่นชมยินดีเมื่อเห็นการลงโทษ
    เขาจะล้างเท้าในกองเลือดของคนชั่ว
11 ผู้คนจะพูดว่า
    “จริงด้วย มีรางวัลสำหรับผู้มีความชอบธรรม
    จริงทีเดียว มีพระเจ้าเป็นผู้พิพากษาแผ่นดินโลก”

คำอธิษฐานขอความปลอดภัย

ถึงหัวหน้าวงดนตรีตามทำนอง “อย่าทำลาย” มิคทามของดาวิด ในครั้งที่ซาอูลให้คนไปเฝ้าดูเหตุการณ์ที่บ้านของดาวิดเพื่อจะฆ่าท่าน[l]

โอ พระเจ้าของข้าพเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากพวกศัตรูเถิด
    คุ้มกันข้าพเจ้าจากพวกที่โจมตีข้าพเจ้า
ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากพวกกระทำชั่ว
    และให้ข้าพเจ้ารอดพ้นจากพวกคนกระหายเลือด

ดูเถิด ด้วยว่าพวกเขาดักรอหมายจะเอาชีวิตข้าพเจ้า
    คนโหดร้ายวางแผนทำร้ายข้าพเจ้า
ทั้งๆ ที่ไม่ใช่บาปหรือการทำผิดประการใดของข้าพเจ้าเลย โอ พระผู้เป็นเจ้า
    ไม่ใช่ความผิดของข้าพเจ้า พวกเขาก็พร้อมที่จะโจมตีข้าพเจ้า
โปรดรีบมาช่วยข้าพเจ้าเถิด แล้วพระองค์จะได้เห็น
    พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าจอมโยธา พระเจ้าของอิสราเอล
ตื่นขึ้นเถิด ลงโทษประชาชาติทั้งปวง
    อย่าไว้ชีวิตผู้ที่วางแผนเลวร้าย เซล่าห์

ทุกเย็นพวกเขากลับมา
    และแยกเขี้ยวใส่อย่างสุนัข
    และวนเวียนอยู่ในเมือง
ดูเถิดว่า พวกเขาปากพล่อย
    และดาบหลุดจากริมฝีปาก
    เพราะเขาคิดกันว่า “ใครจะได้ยินพวกเรา”

โอ พระผู้เป็นเจ้า แต่พระองค์หัวเราะเยาะพวกเขา
    พระองค์เย้ยหยันประชาชาติทั้งปวง
ข้าพเจ้าจะรอคอยพระองค์ ผู้เป็นพละกำลังของข้าพเจ้า
    โอ พระเจ้า พระองค์เป็นป้อมปราการอันมั่นคงของข้าพเจ้า
10 พระเจ้าของข้าพเจ้าจะมาหา เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์
    พระเจ้าจะให้ข้าพเจ้าสมน้ำหน้าพวกศัตรูของข้าพเจ้า

11 อย่าฆ่าพวกเขาทันทีทันใด เพราะเกรงว่าคนของข้าพเจ้าจะลืมโดยง่าย
    โปรดทำให้พวกเขาต้องกระเสือกกระสนด้วยอำนาจของพระองค์ และโค่นพวกเขาลง
    โอ พระผู้เป็นเจ้า ผู้เป็นโล่ป้องกันของพวกเรา
12 เนื่องจากบาปที่เกิดจากสิ่งที่เขาพูด
    และคำพูดจากริมฝีปากของพวกเขา
    ให้พวกเขาติดกับดักในความหยิ่งของตนเถิด
เนื่องจากพวกเขาชอบสาปแช่งและพูดปด
13     กำจัดพวกเขาในการลงโทษ
    กำจัดเขาจนหมดสิ้น
เพื่อเป็นที่รู้กันทั่วแหล่งหล้าว่า
    พระเจ้าปกครองเหนือยาโคบ เซล่าห์

14 ทุกเย็นพวกเขากลับมา
    และแยกเขี้ยวใส่อย่างสุนัข
    และวนเวียนอยู่ในเมือง
15 เป็นเหมือนกับสุนัขที่ตระเวนเที่ยวหาของกิน
    ถ้าหากหาได้ไม่พอเพียงมันก็ทำเสียงขู่
16 แต่ข้าพเจ้าจะร้องเพลงถึงพละกำลังของพระองค์
    ยามเช้าข้าพเจ้าจะเปล่งเสียงร้องด้วยความยินดีถึงความรักอันมั่นคงของพระองค์
เพราะพระองค์เป็นหลักยึดอันมั่นคงของข้าพเจ้า
    เป็นที่พึ่งพิงของข้าพเจ้าในยามทุกข์ยาก

17 โอ พละกำลังของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญถวายแด่พระองค์
    โอ พระเจ้า พระองค์เป็นหลักยึดอันมั่นคงของข้าพเจ้า
    พระเจ้าแห่งความรักอันมั่นคงของข้าพเจ้า

คำอธิษฐานขอให้รอดพ้น

ถึงหัวหน้าวงดนตรี ตามทำนอง “พลับพลึงแห่งพันธสัญญา” มิคทามของดาวิด สำหรับการสั่งสอนในครั้งที่ท่านต่อสู้กับอารัมนาหะราอิมและอารัมโซบาห์ และเมื่อโยอาบฆ่าชาวเอโดมจำนวน 12,000 คนระหว่างเดินทางกลับในหุบเขาเกลือ[m]

โอ พระเจ้า พระองค์ทอดทิ้งพวกเราและทำให้เรากระจัดกระจายไป
    พระองค์โกรธ โปรดกลับมาช่วยพวกเราเถิด
พระองค์ทำให้แผ่นดินสั่นไหวและแยกออก
    โปรดประสานรอยแตกเพราะมันกำลังจะพังทลาย
พระองค์ทำให้ผู้คนของพระองค์ทนทุกข์ทรมานต่อความยากลำบาก
    พระองค์ได้ให้เราดื่มเหล้าองุ่น ทำให้เราเดินตุปัดตุเป๋
พระองค์ตั้งธงชัยไว้สำหรับบรรดาผู้เกรงกลัวพระองค์
    เพื่อให้หนีไปให้พ้นจากความวอดวาย เซล่าห์

โปรดให้เราได้ชัยชนะด้วยมือขวาของพระองค์ และตอบคำอธิษฐานของพวกเรา
    เพื่อว่าบรรดาผู้เป็นที่รักของพระองค์จะได้รับความรอดพ้น
พระเจ้าได้กล่าวในสถานที่บริสุทธิ์ของพระองค์ว่า
    “ด้วยชัยชนะเราจะแบ่งเมืองเชเคม
    และแบ่งหุบเขาสุคคท
กิเลอาดเป็นของเรา และมนัสเสห์เป็นของเรา
    เอฟราอิมเป็นหมวกเหล็กของเรา
    ยูดาห์เป็นคทาของเรา
โมอับเป็นอ่างชำระล้างของเรา
    และเราจะเหวี่ยงรองเท้าของเราลงบนเอโดม
    เรากู่ร้องด้วยความมีชัยต่อฟีลิสเตีย”

ใครจะพาข้าพเจ้าไปยังเมืองที่แข็งแกร่ง
    ใครจะนำข้าพเจ้าไปยังเอโดม
10 โอ พระเจ้า ไม่ใช่พระองค์หรอกหรือที่ไม่ยอมรับพวกเรา
    และไม่ออกไปกับกองทัพของพวกเราอีกแล้ว
11 โปรดช่วยพวกเราต่อต้านข้าศึก
    เพราะความช่วยเหลือจากพวกมนุษย์นั้นไร้ประโยชน์
12 พวกเรามีพระเจ้าอยู่ด้วย เราจะมีชัยชนะ
    พระองค์จะทำให้พวกศัตรูทลายราบเป็นหน้ากลอง

คำอธิษฐานขอความคุ้มครอง

ถึงหัวหน้าวงดนตรีด้วยเครื่องสาย ของดาวิด

โอ พระเจ้า โปรดฟังเสียงร้องของข้าพเจ้า
    ฟังคำอธิษฐานของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าร้องเรียกถึงพระองค์จากสุดมุมโลก
    ในขณะที่ใจของข้าพเจ้าอ่อนล้า
    โปรดนำข้าพเจ้าไปยังศิลาซึ่งอยู่สูงกว่าข้าพเจ้า
ด้วยว่า พระองค์เป็นที่พึ่งพิงของข้าพเจ้า
    เป็นหอคอยแข็งแกร่งเพื่อต่อต้านข้าศึก

โปรดให้ข้าพเจ้าพำนักอยู่ในกระโจมของพระองค์ตลอดกาล
    และให้ปลอดภัยในอ้อมปีกของพระองค์ เซล่าห์
โอ พระเจ้า เพราะพระองค์ได้ยินคำสาบานของข้าพเจ้า
    พระองค์จึงมอบมรดกของผู้ที่ยำเกรงพระนามของพระองค์แก่ข้าพเจ้า

โปรดให้ชีวิตของกษัตริย์ยืนยาวต่อไป
    ขอให้ชีวิตท่านยั่งยืนหลายปีหลายชั่วอายุคน
ขอให้ท่านครองบัลลังก์ ณ เบื้องหน้าพระเจ้าตลอดกาล
    โปรดให้ความรักอันมั่นคงและความสัตย์จริงของพระองค์คุ้มครองท่านเถิด

แล้วข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์เสมอไป
    ขณะที่ข้าพเจ้าทำตามคำสัญญาอยู่ทุกวัน

เพลงสดุดีแห่งการเชื่อมั่นในพระเจ้า

ถึงหัวหน้าวงดนตรี ตามทำนองของเยดูธูน เพลงสดุดีของดาวิด

จริงทีเดียว จิตวิญญาณของข้าพเจ้ารอคอยพระเจ้าเท่านั้นด้วยความสงบใจ
    ความรอดพ้นของข้าพเจ้ามาจากพระองค์
จริงทีเดียว พระองค์เป็นศิลา เป็นความรอดพ้น
    และป้อมปราการของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่มีวันครั่นคร้ามเลย

พวกท่านทุกคนจะทำร้ายชายผู้หนึ่ง
    ซึ่งเป็นเสมือนกำแพงที่เอนเอียง
    และรั้วที่พังทลายไปนานอีกแค่ไหน
จริงทีเดียว พวกเขาวางแผนจะดึงชายผู้นั้นลงมาจากที่อันมีเกียรติ
    พวกเขาสุขใจกับการลวงหลอก
คำอวยพรหลุดจากปากของพวกเขา
    ขณะที่แช่งสาปอยู่ในใจ เซล่าห์

จริงทีเดียว จิตวิญญาณของข้าพเจ้ารอคอยพระเจ้าเท่านั้นด้วยความสงบใจ
    ความหวังของข้าพเจ้ามาจากพระองค์
จริงทีเดียว พระองค์เป็นศิลา ความรอดพ้น
    และป้อมปราการของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่ครั่นคร้าม
ความรอดพ้นและเกียรติของข้าพเจ้าขึ้นอยู่กับพระเจ้า
    พระเจ้าเป็นศิลาอันแข็งแกร่งและที่พึ่งพิงของข้าพเจ้า
โอ ชนชาติเอ๋ย จงไว้วางใจในพระองค์ตลอดเวลา
    เปิดใจให้พระองค์
    พระเจ้าเป็นที่พึ่งพิงสำหรับพวกเรา เซล่าห์

จริงทีเดียว บรรดาผู้ต่ำต้อยเป็นเสมือนลมหายใจ
    และผู้ใหญ่เป็นเสมือนสิ่งลวงตา
จะวางไว้บนตาชั่งก็หามีน้ำหนักไม่
    หากจะชั่งพวกเขารวมกันก็ยังเบากว่าลมหายใจ
10 อย่าวางใจในการใช้กำลังเพื่อจะได้สิ่งที่ท่านต้องการ
    อย่าตั้งความหวังว่าจะได้สิ่งใดจากการจี้ปล้น
แม้จะร่ำรวยขึ้น
    ก็อย่าวางใจในความมั่งมี

11 พระเจ้าได้กล่าวไว้ครั้งหนึ่ง
    ข้าพเจ้าได้ยินสองครั้งแล้วว่า
ฤทธานุภาพเป็นของพระเจ้า
12     โอ พระผู้เป็นเจ้า ความรักอันมั่นคงเป็นของพระองค์อย่างแท้จริง
ด้วยว่าพระองค์จะสนองตอบทุกคน
    ตามการกระทำของเขา[n]

ยามกระหายหาพระเจ้า

เพลงสดุดีของดาวิด ครั้งที่ท่านอยู่ในถิ่นทุรกันดารของยูดาห์

โอ พระเจ้า พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าแสวงหาพระองค์อย่างจริงจัง
จิตวิญญาณของข้าพเจ้ากระหายหาพระองค์
    ข้าพเจ้าปรารถนาพระองค์อย่างยิ่ง
ราวกับแผ่นดินอันแร้นแค้นและเหือดแห้ง
    ปราศจากน้ำ
ข้าพเจ้าได้มองดูพระองค์ในสถานที่บริสุทธิ์
    เห็นฤทธานุภาพและพระบารมีของพระองค์
เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดีเลิศยิ่งกว่าชีวิต
    ริมฝีปากของข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์
ฉะนั้น ข้าพเจ้าจะกราบนมัสการพระองค์ตราบที่ข้าพเจ้ายังมีชีวิตอยู่
    ข้าพเจ้าจะยกมือขึ้นเวลาอธิษฐานต่อพระองค์

จิตวิญญาณของข้าพเจ้าจะได้รับการเลี้ยงดูอย่างบริบูรณ์และสำราญใจ
    และปากของข้าพเจ้ากล่าวคำสรรเสริญพระองค์ด้วยความยินดี
เวลาข้าพเจ้าอยู่บนเตียงนอนก็นึกถึงพระองค์
    ข้าพเจ้าใคร่ครวญถึงพระองค์ในทุกยาม
เพราะพระองค์เป็นผู้ช่วยเหลือข้าพเจ้าตลอดมา
    และข้าพเจ้าร้องเพลงด้วยความยินดีภายใต้ร่มเงาปีกของพระองค์
จิตวิญญาณของข้าพเจ้ายึดพระองค์ไว้แนบแน่น
    มือขวาของพระองค์ปกป้องข้าพเจ้าไว้

ส่วนพวกที่ตามล่าเอาชีวิตข้าพเจ้า
    จะลงไปสู่ส่วนลึกสุดของแผ่นดินโลก
10 พวกเขาจะอยู่ภายใต้อำนาจของพลังดาบ
    และตกเป็นเหยื่อของหมาใน
11 แต่กษัตริย์จะยินดีในพระเจ้า
    บรรดาผู้สาบานในพระนามของพระเจ้าจะสรรเสริญพระองค์
    แต่ปากของพวกคนพูดปดจะถูกปิดไว้

คำอธิษฐานขอความคุ้มครอง

ถึงหัวหน้าวงดนตรี เพลงสดุดีของดาวิด

โอ พระเจ้า โปรดฟังคำรำพันของข้าพเจ้า
    โปรดไว้ชีวิตข้าพเจ้า ข้าพเจ้ากลัวพวกศัตรู
โปรดปกป้องข้าพเจ้าให้พ้นจากแผนการร้ายของคนชั่ว
    จากกลอุบายของคนที่ทำสิ่งเลวร้าย
พวกเขาลับลิ้นตนเองราวกับลับดาบ
    และเล็งคำโหดร้ายราวกับเล็งลูกธนู
ซุ่มยิงคนไร้ความผิด
    เขายิงอย่างทันควันโดยไม่กลัวเกรง
ทั้งยังสนับสนุนแผนการร้ายให้กันและกัน
    พวกเขาพูดถึงการแอบวางกับดักโดยคิดว่า
    “ใครจะมองเห็นได้
ใครจะสืบสวนหาความผิดของเราได้
    ในเมื่อพวกเราคิดแผนลวงอย่างรอบคอบแล้ว”
    ด้วยว่า ความคิดและจิตใจของมนุษย์ช่างลึกล้ำ

แต่พระเจ้าจะยิงลูกธนูของพระองค์ไปยังพวกเขา
    และทำให้เขาบาดเจ็บทันที
พวกเขาจะวอดวายไป
    ก็เพราะลิ้นของตัวเอง
    ทุกคนที่เห็นเขาก็จะพากันส่ายหัว
แล้วคนทั้งปวงจะเกิดความกลัว
    พวกเขาจะป่าวประกาศว่า พระเจ้าได้สำแดงอะไร
    และจะคำนึงถึงสิ่งที่พระองค์กระทำ

10 ให้บรรดาผู้มีความชอบธรรมชื่นชมยินดีในพระผู้เป็นเจ้า
    และพึ่งพิงในพระองค์
ให้คนที่มีความชอบธรรมในจิตใจสรรเสริญพระองค์

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระพร

ถึงหัวหน้าวงดนตรี บทเพลง เพลงสดุดีของดาวิด

โอ พระเจ้า คำสรรเสริญเป็นของพระองค์ในศิโยน
    และพวกเราจะทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับพระองค์
โอ พระองค์ได้ยินคำอธิษฐาน
    มนุษย์ทั้งปวงจะหันเข้าหาพระองค์
เวลาพวกเรามีบาปจนท่วมท้น
    พระองค์ก็ให้อภัยการกระทำที่ขัดขืนต่อพระองค์
คนเป็นสุขคือคนที่พระองค์เลือกและให้เข้ามาใกล้ๆ
    เพื่ออยู่ในลานพระตำหนักของพระองค์
พวกเราจะอิ่มใจกับสิ่งดีๆ ของพระตำหนัก
    และพระวิหารอันบริสุทธิ์ของพระองค์

พระองค์ตอบพวกเราด้วยการกระทำอันน่าเกรงขามในความชอบธรรม
    โอ พระเจ้าแห่งความรอดพ้นของเรา
พระองค์เป็นความหวังของทุกมุมโลก
    และของสุดปลายโพ้นทะเลทั้งปวง
พระองค์ปั้นเทือกเขาด้วยพลานุภาพของพระองค์
    และพระองค์พรั่งพร้อมด้วยอานุภาพ
พระองค์ทำให้เสียงทะเล
    เสียงคลื่นซัด
    และเสียงชุลมุนของบรรดาชนชาติสงบเงียบลง
บรรดาผู้อาศัยอยู่ทุกแห่งหนบนโลกเกรงกลัวปรากฏการณ์ต่างๆ ที่พระองค์กระทำ
    พระองค์ทำให้ยามรุ่งอรุณและยามสายัณห์
    เบิกร้องด้วยความยินดี

พระองค์เอาใจใส่พื้นแผ่นดินและรดน้ำให้
    พระองค์ทำให้ดินสมบูรณ์
แม่น้ำของพระเจ้าเปี่ยมด้วยน้ำ
    พระองค์จัดหาธัญพืชให้
    นี่คือการที่พระองค์เตรียมให้ไว้
10 พระองค์รดน้ำในไร่นาซึ่งพรวนและหว่านเมล็ดแล้ว
    ให้หน้าดินเรียบ ให้ดินร่วนด้วยฝน
    และโปรดให้พรให้พืชเติบโต
11 พระองค์มอบความอุดมสมบูรณ์ในปีอันยอดเยี่ยม
    ทิศทางใดที่พระองค์ผ่านไป ที่นั่นก็มีแต่ความเจริญงอกงาม
12 ทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มชุ่มชื่นใจ
    เนินเขาสุขสำราญใจในความยินดี
13 ที่ราบโล่งเต็มไปด้วยแพะแกะ
    หุบเขาประดับด้วยต้นข้าว
    ทุกสิ่งโห่ร้องด้วยความยินดี

เพลงแห่งคำอธิษฐานและขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระพร

ถึงหัวหน้าวงดนตรี บทเพลง เพลงสดุดี

ทั่วทั้งโลกเอ๋ย จงเปล่งเสียงร้องด้วยความยินดีถวายแด่พระเจ้าเถิด
    ร้องเพลงถึงพระบารมีแห่งพระนามของพระองค์
    กล่าวคำสรรเสริญ ยกย่องพระองค์
พูดกับพระเจ้าว่า “สิ่งที่พระองค์กระทำช่างน่าเกรงขามอะไรเช่นนี้
    อานุภาพของพระองค์ใหญ่ยิ่ง
    จนพวกศัตรูสยบลงต่อหน้าพระองค์ด้วยความกลัว
ทั้งโลกนมัสการพระองค์
    พวกเขาร้องเพลงสรรเสริญพระองค์
    ร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์” เซล่าห์

มาเถิด มาดูว่าพระเจ้าได้กระทำอะไรบ้าง
    สิ่งอันน่าเกรงกลัวที่พระองค์สำแดงท่ามกลางมนุษย์
พระองค์แปรทะเลให้เป็นพื้นดินแห้ง
    เหล่าบรรพบุรุษของเราเดินข้ามแม่น้ำ
    พวกเรายินดีในสิ่งที่พระองค์กระทำที่นั่น
พระองค์ปกครองด้วยอานุภาพของพระองค์ตลอดกาล
    พระองค์สอดส่องสายตายังบรรดาประชาชาติ
    อย่าปล่อยให้พวกที่ต่อต้านยกยอตนเองเลย เซล่าห์

โอ บรรดาชนชาติเอ๋ย จงสรรเสริญพระเจ้าของเรา
    ให้เสียงสรรเสริญพระองค์เป็นที่ได้ยินเถิด
พระองค์ได้ให้พวกเรามีชีวิตอยู่ท่ามกลางคนเป็น
    และไม่ปล่อยให้เท้าของเราพลาดพลั้ง
10 โอ พระเจ้า พระองค์ได้ทดสอบพวกเรา
    หลอมพวกเราดั่งเงินที่ถูกหลอม
11 พระองค์นำพวกเราไปสู่ร่างแห
    และให้พวกเราแบกความทุกข์ยากไว้บนบ่า
12 พระองค์ปล่อยให้คนขี่ม้าเหยียบย่ำหัวพวกเรา
    เราบุกน้ำ ลุยไฟ
    ถึงกระนั้นพระองค์ยังได้นำพวกเราไปยังถิ่นที่อุดมสมบูรณ์

13 ข้าพเจ้าจะนำสัตว์ที่เผาเป็นของถวายมายังพระตำหนักของพระองค์
    ข้าพเจ้าจะถวายสิ่งที่ได้สัญญาไว้
14 ตามที่ริมฝีปากข้าพเจ้าเปล่งออกมา
    และตามที่ปากของข้าพเจ้าได้สัญญายามที่ข้าพเจ้ากำลังลำบาก
15 ข้าพเจ้าจะมอบสัตว์ที่เผาเป็นของถวายคือสัตว์อ้วนพี
    กับเครื่องสักการะที่เป็นควันจากแกะตัวผู้
ข้าพเจ้าจะถวายโคตัวผู้และแพะ เซล่าห์

16 ทุกคนที่เกรงกลัวพระเจ้า จงมา และมาฟังเถิด
    แล้วข้าพเจ้าจะบอกว่า พระองค์ได้กระทำอะไรเพื่อข้าพเจ้าบ้าง
17 ปากข้าพเจ้าส่งเสียงร้องถึงพระองค์
    และลิ้นข้าพเจ้ากล่าวสรรเสริญพระองค์
18 ถ้าใจของข้าพเจ้ายังยึดมั่นในบาปอยู่
    พระผู้เป็นเจ้าก็จะไม่ฟังหรอก
19 แต่พระเจ้าฟังอย่างแน่นอน
    พระองค์ได้สดับเสียงอธิษฐานของข้าพเจ้า
20 ข้าพเจ้าสรรเสริญพระเจ้า
    เพราะพระองค์ไม่ได้ปฏิเสธคำอธิษฐานของข้าพเจ้า
    และไม่ถอนความรักอันมั่นคงของพระองค์ไปจากข้าพเจ้า

บทเพลงขอบคุณพระองค์

ถึงหัวหน้าวงดนตรี ด้วยเครื่องสาย เพลงสดุดี บทเพลง

โอ พระเจ้า โปรดกรุณาต่อเรา และอวยพรพวกเรา
    และหันหน้าให้เราด้วยแสงอันรุ่งโรจน์ของพระองค์ เซล่าห์
เพื่อว่าวิถีทางของพระองค์จะเป็นที่รู้จักบนแผ่นดินโลก
    ความรอดพ้นที่มาจากพระองค์เป็นที่รู้จักในประชาชาติทั้งปวง

โอ พระเจ้า ให้บรรดาชนชาติสรรเสริญพระองค์
    ให้ชนชาติทั้งปวงสรรเสริญพระองค์
ให้บรรดาประชาชาติดีใจและเปล่งเสียงร้องด้วยความยินดี
    ด้วยว่า พระองค์ตัดสินบรรดาชนชาติด้วยความเป็นธรรม
    และนำทางให้แก่บรรดาประชาชาติบนแผ่นดินโลก เซล่าห์
โอ พระเจ้า ให้บรรดาชนชาติสรรเสริญพระองค์
    ให้ชนชาติทั้งปวงสรรเสริญพระองค์

แผ่นดินโลกได้เพิ่มพูนผลผลิต
    พระเจ้า พระเจ้าของเราจะอวยพรพวกเรา
พระเจ้าจะอวยพรพวกเรา
    ให้ทั่วแหล่งหล้าเกรงกลัวพระองค์เถิด

บทเพลงแห่งความมีชัย

ถึงหัวหน้าวงดนตรี เพลงสดุดีของดาวิด บทเพลง

ให้พระเจ้าลุกขึ้น ให้ศัตรูของพระองค์กระจัดกระจายไป
    ให้พวกที่เกลียดชังพระองค์เตลิดหนีไป ณ เบื้องหน้าพระองค์
ควันถูกขับไปอย่างไร ขอพระองค์ขับพวกเขาไปอย่างนั้น
    ขี้ผึ้งหลอมละลายด้วยเปลวไฟอย่างไร
    ขอคนชั่วร้ายพินาศ ณ เบื้องหน้าพระเจ้าอย่างนั้น
แต่ให้บรรดาผู้มีความชอบธรรมเบิกบานใจ
    ให้พวกเขายินดี ณ เบื้องหน้าพระเจ้า
    ให้พวกเขาสุขใจและรื่นเริง

ร้องเพลงถวายแด่พระเจ้าเถิด ร้องสรรเสริญพระนามของพระองค์
    แซ่ซ้องด้วยเสียงเพลงแด่พระองค์ผู้มากับหมู่เมฆ
พระองค์มีพระนามว่าพระผู้เป็นเจ้า
    จงชื่นชมยินดี ณ เบื้องหน้าพระองค์
บิดาของคนกำพร้าพ่อ และผู้คุ้มครองของหญิงม่าย
    พระองค์คือพระเจ้าในสถานที่บริสุทธิ์
พระเจ้าตั้งรกรากให้คนเดียวดายได้อาศัยในครัวเรือน
    พระองค์นำบรรดาผู้ที่ถูกคุมขังออกไปพร้อมกับเสียงเพลง
    แต่พวกฝ่าฝืนอาศัยอยู่ในดินแดนอันแร้นแค้น

โอ พระเจ้า เวลาพระองค์นำหน้าชนชาติของพระองค์ไป
    เวลาพระองค์ก้าวผ่านที่ร้างอันแร้นแค้น เซล่าห์
แผ่นดินไหว ฟ้าสวรรค์เทฝนลงมา
    ณ เบื้องหน้าพระเจ้า องค์แห่งภูเขาซีนาย[o]
    ณ เบื้องหน้าพระเจ้า พระเจ้าของอิสราเอล
โอ พระเจ้า พระองค์ให้ฝนโปรยอย่างชุ่มฉ่ำ
    เวลาอาณาเขตของพระองค์แห้งเหือด พระองค์ทำให้ผืนแผ่นดินมีชีวิตขึ้น
10 สิ่งมีชีวิตทั้งปวงอาศัยอยู่ในที่นั้น
    โอ พระเจ้า พระองค์จัดหาให้คนยากไร้ เพราะพระองค์ประเสริฐ

11 พระผู้เป็นเจ้าแถลงคำ
    และผู้ส่งข่าวจำนวนมากเป็นผู้นำข่าวอันประเสริฐ
12 บรรดากษัตริย์ของกองทัพหนีไป เขาหนีไป
    พวกผู้หญิงในบ้านก็แบ่งของที่ริบมาได้
13 แม้ว่าพวกเขาจะนอนอยู่แถวคอกแกะ
    ปีกนกพิราบซึ่งทาบด้วยเงิน
    ขนของมันก็เป็นทองคำบริสุทธิ์
14 เมื่อองค์ผู้กอปรด้วยมหิทธานุภาพทำให้เหล่ากษัตริย์กระจัดพลัดพรายในบริเวณนั้น
    ดั่งพายุหิมะบนภูเขาศัลโมน

15 โอ ภูเขาของพระเจ้า ภูเขาแห่งแคว้นบาชาน
    โอ ภูเขาหลากยอด ภูเขาแห่งแคว้นบาชาน
16 โอ ภูเขาหลากยอดเอ๋ย ทำไมจึงมองดูภูเขา
    ที่พระเจ้าต้องการพำนักด้วยความอิจฉาเล่า
    พระผู้เป็นเจ้าประสงค์จะพำนักอยู่ที่นั่นตลอดไป
17 รถศึกของพระเจ้าหลายหมื่นคัน
    หรืออาจเป็นแสนเป็นล้าน
    พระผู้เป็นเจ้ามาจากซีนายเข้าไปในสถานที่บริสุทธิ์
18 เมื่อพระองค์ได้ขึ้นไปสู่ที่สูง
    พระองค์นำพวกเชลยไป
    และได้รับสิ่งที่มนุษย์ถวายให้[p]
แม้จะเป็นของจากพวกที่ดื้อดึงต่อพระองค์
    พระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าจะพำนักอยู่ที่นั่น

19 ขอให้พระผู้เป็นเจ้าได้รับการสรรเสริญ
    พระองค์แบกรับภาระของเราอยู่วันแล้ววันเล่า
    พระเจ้าเป็นความรอดพ้นของเรา เซล่าห์
20 พระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าแห่งความรอดพ้น
    และเราจะหลุดพ้นจากความตายได้ ก็โดยพระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่
21 และพระเจ้าจะทำให้หัวของศัตรูของพระองค์แตกเป็นเสี่ยงๆ
    หัวที่ปกคลุมด้วยผมยาวของคนที่เดินในทางบาป
22 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า
    “เราจะพาพวกเขากลับมาจากแคว้นบาชาน
    เราจะพาพวกเขากลับมาจากท้องทะเลลึก
23 เพื่อเจ้าจะได้แกว่งเท้าในแอ่งเลือด
    เพื่อลิ้นสุนัขของเจ้าจะได้มีส่วนแบ่งปันจากศัตรูของเจ้า”

24 โอ พระเจ้า ขบวนแห่ของพระองค์จะเป็นที่ประจักษ์
    ขบวนแห่ของพระเจ้าผู้เป็นกษัตริย์ของข้าพเจ้า เข้าไปยังสถานที่บริสุทธิ์
25 หมู่นักร้องนำหน้าไป
    พรหมจาริณีสะบัดรำมะนาใบน้อยอยู่ตรงกลาง
    และหมู่นักดนตรีอยู่รั้งท้าย
26 “บรรดาผู้สืบสายมาจากอิสราเอล จงสรรเสริญพระเจ้า
    สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าในที่ประชุมใหญ่”
27 ที่นั่นมีเบนยามินเผ่าที่เล็กสุดเป็นผู้นำหน้าไป
    ต่อไปเป็นบรรดาหัวหน้าเผ่ายูดาห์ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่
    บรรดาหัวหน้าเผ่าเศบูลุนและบรรดาหัวหน้าเผ่านัฟทาลี

28 โอ พระเจ้า แสดงอานุภาพของพระองค์เถิด
    โอ พระเจ้า ให้พวกเราเห็นพลานุภาพของพระองค์ อย่างที่พระองค์ได้กระทำไปแล้วเถิด
29 จากพระวิหารของพระองค์ที่เยรูซาเล็ม
    อันเป็นสถานที่บรรดากษัตริย์นำของกำนัลมาถวายแด่พระองค์
30 ห้ามพวกสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในดงอ้อ
    ห้ามฝูงกระทิงที่อยู่ท่ามกลางกระทิงน้อยของบรรดาชนชาติ
พวกที่ใคร่จะได้เครื่องบรรณาการ
    ก็ขอให้ถูกทำให้ถ่อมลง และขอให้บรรดาชนชาติที่ชอบการสงครามกระเจิดกระเจิงไป
31 บรรดาผู้สูงศักดิ์มาจากประเทศอียิปต์
    ชาวคูชรีบยกมือขึ้นคารวะพระเจ้า

32 โอ บรรดาอาณาจักรของแผ่นดินโลกเอ๋ย จงร้องเพลงถวายแด่พระเจ้า
    ร้องเพลงสรรเสริญถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า เซล่าห์
33 ให้พระองค์ผู้ท่องไปในสวรรค์ คือสวรรค์ครั้งโบราณกาล
    พระองค์ส่งเสียงอันกอปรด้วยมหิทธานุภาพ
34 จงป่าวร้องว่าพระเจ้ามีอานุภาพ
    ความยิ่งใหญ่ของพระองค์ปกเหนืออิสราเอล
    และอานุภาพของพระองค์เป็นที่ประจักษ์ในท้องฟ้า
35 พระเจ้าจากที่พำนักของพระองค์เป็นผู้น่าเกรงขาม
    พระเจ้าของอิสราเอลเป็นผู้ให้อานุภาพและพละกำลังแก่ชนชาติของพระองค์

สรรเสริญพระเจ้า

ร้องขอความช่วยเหลือ

ถึงหัวหน้าวงดนตรี ตามทำนองพลับพลึง เพลงสดุดีของดาวิด

โอ พระเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น
    เพราะน้ำท่วมถึงคอข้าพเจ้าแล้ว
ข้าพเจ้าจมลงในตมลึก
    และมิอาจใช้เท้ายึดเป็นหลักได้เลย
ข้าพเจ้าตกสู่ห้วงน้ำลึก
    และคลื่นก็ซัดจนมิดศีรษะ
ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจนอ่อนแรง
    ลำคอแห้งผาก
ข้าพเจ้ารอคอยพระเจ้าจนตาพร่า
พวกที่เกลียดชังข้าพเจ้าอย่างไร้สาเหตุ[q]
    มีมากกว่าจำนวนเส้นผมบนศีรษะของข้าพเจ้า
มีศัตรูจำนวนมากอยากกำจัดข้าพเจ้าโดยไร้สาเหตุ
    บังคับข้าพเจ้าให้คืนสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่ได้ขโมย

โอ พระเจ้า พระองค์ทราบถึงความโง่เขลาของข้าพเจ้า
    ความผิดต่างๆ ที่ข้าพเจ้าทำไปไม่อาจถูกซ่อนไว้จากพระองค์

พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาผู้ยิ่งใหญ่
    อย่าปล่อยให้บรรดาผู้ที่วางใจในพระองค์ต้องอับอายเพราะข้าพเจ้า
    อย่าปล่อยให้บรรดาผู้ที่แสวงหาพระองค์ถูกเหยียดหยามเพราะข้าพเจ้า
โอ พระเจ้าของอิสราเอล
ข้าพเจ้าทนต่อการสบประมาทก็เพื่อพระองค์
    ข้าพเจ้าอับอายเป็นที่สุด
ข้าพเจ้าได้กลายเป็นคนแปลกหน้าของพวกพี่น้องข้าพเจ้า
    และเหมือนคนต่างชาติของพี่น้องท้องเดียวกับข้าพเจ้า
ความปรารถนาอันแรงกล้าในเรื่องพระตำหนักของพระองค์ท่วมท้นใจข้าพเจ้า[r]
    และการสบประมาทของพวกที่กระทำต่อพระองค์เป็นการสบประมาทข้าพเจ้า[s]
10 เวลาข้าพเจ้าร้องไห้ ข้าพเจ้าทนทุกข์ด้วยการอดอาหาร
    และต้องทนต่อการสบประมาท
11 เวลาข้าพเจ้านุ่งห่มด้วยผ้ากระสอบ
    ข้าพเจ้าเป็นที่น่าขบขันสำหรับพวกเขา
12 พวกที่นั่งอยู่ที่ประตูเมืองพูดเรื่องข้าพเจ้า
    และเอาเรื่องของข้าพเจ้ามาแต่งเป็นเพลงของพวกขี้เมา

13 แต่สำหรับข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าอธิษฐานต่อพระองค์ โอ พระผู้เป็นเจ้า
    ขึ้นอยู่กับกาลเวลาของพระองค์โดยแท้ โปรดตอบข้าพเจ้า
เพราะความช่วยเหลืออันแท้จริงของพระองค์
    ตามความรักอันมั่นคงของพระองค์ที่มีอยู่อย่างเอนกอนันต์
14 โปรดช่วยข้าพเจ้าไม่ให้จมลงในตม
    ให้รอดพ้นจากพวกที่เกลียดชังข้าพเจ้า
    และจากห้วงน้ำลึก
15 อย่าปล่อยให้คลื่นซัดมิดศีรษะข้าพเจ้า
    อย่าให้ห้วงน้ำลึกกลืนข้าพเจ้า
    และอย่าให้ปากหลุมปิดและกักข้าพเจ้าไว้

16 โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดตอบข้าพเจ้าด้วย เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ประเสริฐนัก
    และพระองค์มีความเมตตาอย่างยิ่ง โปรดหันมาทางข้าพเจ้าด้วย
17 อย่าซ่อนหน้าไปเสียจากผู้รับใช้ของพระองค์
    เพราะข้าพเจ้าตกอยู่ในความทุกข์ โปรดรีบตอบข้าพเจ้า
18 โปรดเข้ามาใกล้ข้าพเจ้าเถิด
    ไถ่และช่วยข้าพเจ้าให้เป็นอิสระจากศัตรู

19 พระองค์ทราบว่าข้าพเจ้าถูกสบประมาท
    อีกทั้งอับอายและถูกเหยียดหยาม
    พระองค์ทราบว่าศัตรูทั้งปวงของข้าพเจ้าคือใคร
20 การถูกสบประมาททำให้ข้าพเจ้าเศร้าใจ
    ข้าพเจ้าจึงสิ้นหวัง
ข้าพเจ้าไขว่คว้าหาความเห็นใจแต่ก็ไม่ได้รับ
    และหามีใครมาปลอบประโลมไม่
21 และพวกเขาให้ข้าพเจ้ากินของขมเป็นอาหาร
    และให้เหล้าองุ่นเปรี้ยวเพื่อดับกระหาย[t]

22 ให้งานเลี้ยงฉลองที่จัดไว้ที่ตรงหน้าพวกเขากลายเป็นบ่วงแร้ว
    ให้เป็นการคืนสนองแก่เขาและเป็นกับดัก
23 ให้ตาของเขามืดลงเพื่อจะมองไม่เห็น
    และทำให้บั้นเอวสั่นสะท้านอยู่เนืองๆ[u]
24 ขอพระองค์แสดงความขัดเคืองต่อพวกเขา
    และให้ความกริ้วอันร้อนแรงของพระองค์ตกอยู่กับพวกเขา
25 ขอให้ค่ายของพวกเขาร้าง
    และอย่าได้มีผู้ใดอาศัยอยู่ในกระโจมของเขาเลย[v]
26 พวกเขาข่มเหงผู้ที่พระองค์ได้ลงโทษแล้ว
    และผู้ที่พระองค์ทำให้บาดเจ็บ พวกเขายังจะทำให้ต้องรับทุกข์ทรมานมากขึ้นอีก
27 เพิ่มโทษแก่พวกเขาซ้ำแล้วซ้ำอีก
    และอย่าให้พวกเขาได้รับอภัยโทษจากพระองค์เลย
28 ให้ชื่อของพวกเขาถูกลบออกจากหนังสือแห่งชีวิต
    อย่าให้พวกเขามีชื่ออยู่ในบันทึกเดียวกันกับบรรดาผู้มีความชอบธรรม

29 แต่ข้าพเจ้ามีทุกข์และเจ็บปวด
    โอ พระเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นและอยู่ในที่ปลอดภัยเถิด

30 ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระนามของพระเจ้าด้วยบทเพลง
    และขอบคุณพระองค์โดยให้เห็นว่าพระองค์ยิ่งใหญ่
31 การกระทำเช่นนี้ย่อมเป็นที่พอใจของพระผู้เป็นเจ้า ยิ่งกว่าการถวายโค
    หรือโคหนุ่มที่มีเขาและกีบ
32 ให้ผู้ขัดสนได้เห็นและดีใจเถิด
    ท่านที่แสวงหาพระเจ้าอย่าท้อใจเลย
33 ด้วยว่า พระผู้เป็นเจ้ารับฟังผู้ยากไร้
    และไม่ทอดทิ้งคนของพระองค์ที่ถูกคุมขัง

34 ให้สวรรค์และโลกสรรเสริญพระองค์
    รวมทั้งทะเลและทุกสิ่งที่แหวกว่ายในทะเล
35 ด้วยว่า พระเจ้าจะช่วยศิโยนให้รอดพ้น
    และสร้างเมืองต่างๆ ของยูดาห์ขึ้นใหม่
และบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์จะได้อาศัยอยู่ที่นั่น
    และครอบครองเมืองเหล่านั้น
36 บรรดาบุตรของผู้รับใช้ของพระองค์จะได้รับเป็นมรดก
    และบรรดาผู้รักพระนามของพระองค์จะอาศัยอยู่ที่นั่น

อธิษฐานขอความช่วยเหลือ

ถึงหัวหน้าวงดนตรี เพลงสดุดีของดาวิด ขอความกรุณา

โอ พระเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น
    โอ พระผู้เป็นเจ้า รีบมาช่วยข้าพเจ้าเถิด
ให้พวกที่ตามล่าชีวิตข้าพเจ้า
    อับอายและสับสน
ให้ทุกคนที่ต้องการให้ข้าพเจ้าพินาศ
    กลับหลังหันไปอย่างไร้เกียรติเถิด
พวกที่พูดเยาะเย้ยก็ขอให้เขา
    กลับหลังหันไปด้วยความอับอาย

ขอให้ทุกคนที่แสวงหาพระองค์
    ยินดีและเบิกบานใจในพระองค์
ขอให้บรรดาผู้รักความรอดพ้นที่มาจากพระองค์พูดเสมอว่า
    “พระเจ้ายิ่งใหญ่นัก”
แต่ข้าพเจ้าขัดสนและยากไร้
    โอ พระเจ้า รีบมาช่วยข้าพเจ้าเถิด
พระองค์เป็นผู้ช่วยเหลือและผู้ช่วยให้รอดพ้นของข้าพเจ้า
    โอ พระผู้เป็นเจ้า อย่ารอช้าเลย

อธิษฐานขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าในยามชรา

โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้ามีพระองค์เป็นที่พึ่งพิง
    อย่าให้ข้าพเจ้าต้องอับอายเลย
พระองค์เป็นผู้มีความชอบธรรม โปรดช่วยข้าพเจ้าให้ปลอดภัยและพ้นภัยเถิด
    เงี่ยหูฟังข้าพเจ้า และช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น
โปรดเป็นศิลาที่ข้าพเจ้าหันหา
    เพื่อพึ่งพิงได้เสมอ
ขอพระองค์บัญชาเพื่อช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นเถิด
    ด้วยว่า พระองค์เป็นศิลาและป้อมปราการของข้าพเจ้า

โอ พระเจ้าของข้าพเจ้า ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากมือของคนชั่ว
    จากเงื้อมมือของคนไร้ความยุติธรรม และโหดร้าย
โอ พระผู้เป็นเจ้า ด้วยว่า พระองค์คือความหวังของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าวางใจในพระผู้เป็นเจ้ามาแต่ครั้งยังเยาว์
ข้าพเจ้าพึ่งพระองค์ตั้งแต่ถือกำเนิดมา
    พระองค์ประคับประคองข้าพเจ้านับจากครรภ์มารดาของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าสรรเสริญพระองค์เสมอ

ข้าพเจ้าทำให้คนจำนวนมากทึ่งได้
    ก็เป็นเพราะพระองค์ผู้เป็นที่พึ่งพิงอันแข็งแกร่งของข้าพเจ้า
ปากข้าพเจ้าได้แต่สรรเสริญ
    และประกาศความยิ่งใหญ่ของพระองค์ตลอดวันเวลา
อย่าผลักไสข้าพเจ้าไปในยามที่ข้าพเจ้าชราลง
    อย่าทอดทิ้งข้าพเจ้าในยามที่หมดกำลัง
10 ด้วยว่า พวกศัตรูพูดเรื่องข้าพเจ้า
    และพวกที่หมายปองชีวิตข้าพเจ้าคบคิดกันลอบทำร้าย
11 และพูดกันว่า “พระเจ้าทอดทิ้งเขาแล้ว
    ไล่ตามไปและจับตัวเขาไว้เถิด
    เพราะไม่มีใครจะช่วยเหลือเขาให้รอดพ้นได้”

12 โอ พระเจ้า อย่าอยู่ห่างจากข้าพเจ้าเลย
    โอ พระเจ้าของข้าพเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าโดยเร็ว
13 ขอให้พวกกล่าวหาข้าพเจ้าต้องอับอายและพินาศไป
    ขอให้พวกที่พยายามทำร้ายข้าพเจ้า
    ถูกเหยียดหยามและดูหมิ่น
14 แต่ข้าพเจ้าจะยังคงมีความหวังเสมอ
    และยังจะสรรเสริญพระองค์ยิ่งไปกว่าเดิม
15 ตลอดวันเวลาข้าพเจ้าจะเอ่ยปากพูดถึงการกระทำอันชอบธรรมของพระองค์
    และความรอดพ้นที่มาจากพระองค์
    แม้ข้าพเจ้าจะไม่ทราบว่าบ่อยครั้งเพียงไรก็ตาม
16 ข้าพเจ้าจะมาด้วยมหิทธานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่
    ข้าพเจ้าจะสรรเสริญความชอบธรรมของพระองค์เท่านั้น

17 โอ พระเจ้า พระองค์ได้สอนข้าพเจ้าตั้งแต่ครั้งยังเยาว์
    และมาบัดนี้ข้าพเจ้ายังป่าวประกาศถึงสิ่งมหัศจรรย์ที่พระองค์กระทำ
18 ถึงแม้จะชราลงและผมหงอกขาวก็ตาม
    โอ พระเจ้า อย่าทอดทิ้งข้าพเจ้าเลย
จนกว่าข้าพเจ้าจะได้ประกาศถึงอานุภาพและมหิทธานุภาพของพระองค์
    ให้คนยุคต่อๆ ไปฟัง
19 โอ พระเจ้า ความชอบธรรมของพระองค์สูงไปถึงชั้นสวรรค์
    สิ่งต่างๆ อันยิ่งใหญ่ที่พระองค์ได้กระทำ
    โอ พระเจ้า ใครเป็นเหมือนพระองค์บ้าง
20 แม้ว่าพระองค์ทำให้ข้าพเจ้าได้เห็นความลำบากและความเจ็บปวดมากมาย
    แต่พระองค์จะทำให้ข้าพเจ้าฟื้นขึ้นอีก
พระองค์จะให้ข้าพเจ้าฟื้นคืนชีวิต
    จากส่วนลึกของแผ่นดินโลก
21 พระองค์จะเพิ่มพูนเกียรติ
    และปลอบประโลมข้าพเจ้าอีก

22 ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ด้วยพิณสิบสาย
    จะสรรเสริญความสัตย์จริงของพระองค์ โอ พระเจ้า
ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญด้วยพิณเล็กถวายแด่พระองค์
    โอ องค์ผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอล
23 ริมฝีปากของข้าพเจ้าจะโห่ร้องด้วยความยินดี
    จริงทีเดียว ข้าพเจ้าจะร้องถวายแด่พระองค์ด้วยจิตวิญญาณ
    ซึ่งพระองค์ได้ช่วยให้รอดพ้นแล้ว
24 และลิ้นของข้าพเจ้าจะพูดถึงความชอบธรรมของพระองค์ตลอดวันเวลา
พวกที่ตั้งใจทำให้ข้าพเจ้าเจ็บปวด
    จะต้องอับอายและถูกหลู่เกียรติ

อธิษฐานให้กษัตริย์

ของซาโลมอน

โอ พระเจ้า โปรดมอบความยุติธรรมของพระองค์ให้เป็นคุณสมบัติของกษัตริย์
    และความชอบธรรมของพระองค์แก่บุตรของกษัตริย์
ขอให้ท่านตัดสินบรรดาชนชาติของพระองค์ด้วยความชอบธรรม
    และบรรดาคนยากจนของพระองค์ด้วยความเป็นธรรม
ขอให้ภูเขานำความอุดมสมบูรณ์มายังบรรดาชนชาติ
    และเนินเขานำความชอบธรรมมา
ให้ท่านปกป้องผู้ตกทุกข์ได้ยากของปวงชน
    ให้ความปลอดภัยแก่ลูกๆ ของผู้ยากไร้
    และให้ผู้บีบบังคับแพ้พ่าย

ขอให้ท่านคงชีวิตอยู่ตราบที่ดวงอาทิตย์
    และดวงจันทร์ส่องแสงตลอดทุกยุคทุกสมัย
ขอให้ท่านเป็นดั่งฝนที่พร่างพรมลงบนหญ้าตัดใหม่
    เป็นดั่งฝนที่โปรยปรายลงสู่พื้นดิน
ขอให้ความชอบธรรมไพบูลย์ พูนผลชั่วชีวิตของท่าน
    และให้ความอุดมสมบูรณ์ยืนยงตราบที่ดวงจันทร์ทอแสง

ขอให้ท่านปกครองอาณาเขตจากทะเลแห่งหนึ่งจรดทะเลอีกแห่งหนึ่ง
    และจากแม่น้ำจรดสุดขอบโลก
ขอให้ศัตรูของท่านก้มลง ณ เบื้องหน้าท่าน
    และศัตรูของท่านยอมสยบอยู่กับพื้น
10 ขอให้บรรดากษัตริย์แห่งเมืองทาร์ชิช เมืองแถบชายฝั่งทะเลกับเกาะต่างๆ
    มอบเครื่องบรรณาการแก่ท่าน
ให้บรรดากษัตริย์แห่งเช-บาและเส-บา
    นำของกำนัลมา
11 ขอให้บรรดากษัตริย์ทั้งปวงก้มกราบลง ณ เบื้องหน้าท่าน
    และประชาชาติทั้งปวงรับใช้ท่าน
12 เพราะท่านช่วยผู้ยากไร้ที่ร้องขอความช่วยเหลือ
    ช่วยคนยากจนและคนที่ขาดความช่วยเหลือ
13 ท่านสงสารคนสิ้นไร้ไม้ตอกและคนยากไร้
    และช่วยชีวิตบรรดาคนยากไร้
14 ท่านช่วยชีวิตพวกเขาให้พ้นจากการบีบบังคับและการกระทำอันรุนแรง
    และชีวิตของพวกเขามีค่าในสายตาของท่าน
15 ขอให้ท่านมีชีวิตยืนยาว
    ขอให้ท่านได้รับทองคำจากอาณาจักรเช-บา
ขอให้คนอธิษฐานเพื่อท่านเรื่อยไป
    และได้รับพระพรตลอดวันเวลา
16 ขอให้มีธัญญาหารอย่างอุดมสมบูรณ์บนแผ่นดิน
    แม้บนยอดเขาก็มียอดข้าวโบกสะบัด
    ดั่งพืชผลที่อุดมในเลบานอน
และพลเมืองเพิ่มจำนวนขึ้น
    ดั่งต้นหญ้าบนแผ่นดิน
17 ขอให้นามของท่านยืนยงชั่วกาลนาน
    และชื่อเสียงคงอยู่ตลอดไปตราบที่ดวงอาทิตย์คงอยู่
ให้ผู้คนรับพระพรเพราะท่าน
    ประชาชาติทั้งปวงเรียกท่านว่า ผู้มีความสุข

18 สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอล
    พระองค์ผู้เดียวที่กระทำสิ่งมหัศจรรย์
19 สรรเสริญพระนามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ตลอดกาล
    ขอพระบารมีของพระองค์เต็มทั่วแผ่นดินโลก
อาเมน และอาเมน

20 คำอธิษฐานของดาวิด บุตรของเจสซีจบลงเท่านี้